ข่าวประจำวัน » #ฟังทนายแล้วใจสลาย !! คิดว่ามีเชื้อ HIV สุดท้ายโรงพยาบาลดังตรวจผิด

#ฟังทนายแล้วใจสลาย !! คิดว่ามีเชื้อ HIV สุดท้ายโรงพยาบาลดังตรวจผิด

18 August 2017
565   0

 

วันนี้ทางทีมงานวิหคนิวส์ต้องขอบอกเลยว่า ถือเป็นเรื่องที่แสนเศร้า ของ เกษตรกรตัวอย่าง หลังจากผู้ชายคนหนึ่งไปตรวจสุขภาพกับโรงพยาบาลดัง ย่านศรีนครินทร์ เพื่อจะนำผลไปประกอบการกู้เงินธนาคารเพื่อขยายธุรกิจ แต่ผลออกมาว่าติดเชื้อ HIV ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้เป็นต้องทนทุกข์ทรมานกว่า 2 ปี ตระเวนเดินสายตรวจเลือดเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ จนวันนี้ผลออกแน่ชัดแล้วว่าเขาไม่ได้ติดเชื้อ HIV ซึ่งคุณชาตรี เตี้ยบัวแก้ว (ผู้เสียหาย) และภรรยา คุณพิมพ์ปญา เตี้ยบัวแก้ว มาเปิดใจถึงเรื่องนี้ในรายการโหนกระแส

ผมขยายกิจการ คือ ทำไร่น่าสวนผสม เคยเป็นเกษตรกรตัวอย่าง เริ่มดี มีเงินมีทอง จะซื้อที่ข้างเคียง ต้องใช้เงิน โดยมีบริษัทประกันมารับรอง เพราะจะซื้อที่ 7 ล้าน 2 แสน ซึ่งธนาคารบอกกู้ได้แต่ต้องทำประกัน ตายไปก็ไม่ต้องผ่อน ตกลงทำ ก็ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแถวบ้าน ย่านศรีนครินทร์ ไปกับแฟนครับ พอดีหมอตรวจผลออกมาว่ามีเชื้อ ก็ยังไม่ได้ฟันธงครั้งแรก ก็ขอเลือดไปตรวจครั้งที่ 2 วันนั้นเลยครับ อีก 5 วันได้ผล เสร็จปุ๊บ เขาฟันธงว่าเราติดเชื้อและสมควรไปรักษาเลย เดินออกจากห้องไม่มีอะไรอีกแล้วในชีวิต พิพากษาเลย ผมเดินออกไปจะให้รถชน แต่ภรรยาผมดึงแขนเอาไว้

ส่วนภรรยาบอกว่า เห็นหน้าตอนที่เขาเดินออก ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมีอะไรแต่หน้าเขาซีด เหมือนคนขาดสติ ถามว่ามีอะไร เขาก็กระซิบข้างหูว่าหมอบอกฉันมีเชื้อ HIV เราก็บอกเป็นไปไม่ได้ เขายืนไม่ได้ทรุดตัวตรงนั้น แล้วบอกไม่อยากอยู่แล้ว สังคมไม่ยอมรับ ซึ่งเราก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ พยายามจะเดินเข้าไปถามหมอ แต่เจ้าที่ไม่ยอมให้เข้าไป เขาบอกห้ามเข้า ก็เลยรีบมาคว้าตัวเขาไว้

แล้วที่บอกว่าเขาจะเดินให้รถชนจริงมั้ย

ภรรยา ตอบว่า จริงค่ะ ตัวเขาเองรับไม่ได้

ซึ่งตรวจ 2 ครั้งเป็นเหมือนกันเลยที่โรงพยาบาลเดียว เราทำยังไงต่อ

ภรรยา ตอบว่า ตอนนั้นด้วยผลทำให้ไม่สามารถทำประกันได้ เมื่อทำประกันไม่ได้ก็ไม่สามารถกู้เงินได้ ชีวิตตอนนั้นเราก็มานั่งคิดกันอยู่ว่าทำยังไง เจ้าหน้าที่ก็บอกให้แผนการทำประกัน โดยลดวงเงินการกู้ยืมลง ทำให้เราเสียหายก็เปลี่ยนตัวผู้กู้

แล้วเปลี่ยตัวคนกู้ต้องตรวจสุขภาพอีกมั้ย

ภรรยา ตอบว่า ตรวจค่ะ เขาให้เราไปตรวจที่โรงพยาบาล ไทยนครินทร์ ซึ่งสามีตามไปด้วยก็ขอตรวจที่นั้นอีกครั้ง ผลตรวจออกมาว่าไม่เป็น ไม่มีเชื้อ HIV ผ่านไป 10 กว่าวัน หลังจากที่ตรวจมาจากโรงพยาบาลแรก

พอโรงพยาบาลที่ 2 ไม่เป็น ตอนนั้นยังไง

ใจชื้นขึ้น เราก็อยากพิสูจน์อีกว่าโรงพยาบาลต่อไปจะมีเชื้ออีกมั้ย ก็เลยไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เรื่องมันยากนะที่จะตรวจเชื้อ เราก็ไปเล่าเรื่องให้เขาฟัง เขาจึงยินยอมตรวจให้ ผลเป็นลบไม่มีเชื้อครับ

ภรรยา ตอบว่า ทางโรงพยาบาลรามาฯ แนะนำว่าให้ทิ้งระยะ 3-6 เดือนแล้วไปตรวจซ้ำใหม่อีกครั้ง เผื่อมีการฝักตัวของเชื้อ เราก็ทำตามที่หมอแนะนำ

หลังจากไปที่โรงพยาบาลรามาฯ แล้วไปไหนต่อ

ไปโรงพยาบาลจุฬาฯ ครับ ซึ่งผลตรวจก็ไม่ได้ฟันธงว่าเป็น HIV ค่าผลเป็นลบครับ

เห็นว่าไปที่โรงพยาบาลรามาฯ อีก

ใช่ครับ อย่างที่บอกว่าทางโรงพยาบาลรามาบอกอาจจะมีการฟักเชื้อ เราก็ไปตรวจให้แน่ใจ ผลออกก็ไม่พบอีก ซึ่งหมอบอกว่าไม่ต้องมาตรวจอีกแล้ว แต่ก็ยังไม่พอใจครับ ไปคลินิกหมอเจตต์ ก็ไม่พบอีกครับ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้วครับ

ติดต่อไปครับ ว่าสิ่งที่ตรวจมามันผิดมั้ย ช่วงแรกเราให้ทนายเป็นคนเดินเรื่องให้ แต่เขาไม่ทำ เขาบอกคุยกับโรงพยาบาลใหญ่ยังไงก็แพ้ เขาเดินเรื่อง 1 ปี เราก็ตัดสินใจเดินลุยเอง ไปเจอเจ้าหน้าเขาก็ไม่สนใจ เราบอกงั้นออกสื่อมั้ย เขาเลยเอาผู้บริหารมาคุย แล้วบอกว่าการผิดพลาดมันน้อยมาก เพราะโรงพยาบาลเขามีมตราฐาน เราอยากให้เขาแก้ผลให้ ดูแลรับผิดชอบยังไง เขาบอกทำไรไม่ได้ เพราะมาตรฐานผมก็มีอยู่ และยินดีด้วยที่คุณไม่เป็น พูดมาแค่นี้ และเสนอว่าตรวจร่างกายมั้ย เขาชดเชยให้แค่นี้

เห็นว่าล่าสุดไปตรวจเพิ่มอีกด้วย

ภรรยา ตอบว่า เมื่อวาน 16 สิงหาคม ไปตรวจที่คลินิกนิรนาม สภากาชาดไทย อีกครั้งหนึ่ง เอาให้ชัดเจน ผลออกมาคือไม่มีเชื้อ เป็นที่ ๆ 6 ที่ไปตรวจ ถึงตอนนี้ยังไงไม่ได้ติดต่อโรงพยาบาลแรก เพราะเขาปฎิเสธความรับผิดชอบเราแล้ว

ผมถามอย่างนี้ 2 ปีที่ผ่านมาคุณเป็นยังไงบ้าง

ภรรยา ตอบว่า ธุรกิจที่เราจะเดินต่อเราทำไม่ได้ ไม่มีกำลังใจทำธุรกิจต่อ

ส่วนชาตรี ตอบว่า เขาพิพากษาให้เราตายไปแล้ว ความคิดอะไรไม่มีจิตใจทำงาน ไม่สู้แล้ว เกษตรพัง เพราะจุดนี้ เพราะเราไม่ได้ดูแลเลย เมื่อก่อนมีรายดีปีละเป็นล้าน ตอนนี้เหลือเป็นแสน ไปดูสภาพสวนผมตอนนี้ ชีวิตก็พัง