ข่าวประจำวัน » #พิสูจน์รัก 7 ปี ก้อย รัชวิน อยู่ด้วยทุกโมเม้นต์ วิ่งเคียงข้าง ก้าวไปกับ ตูน บอดี้สแลม

#พิสูจน์รัก 7 ปี ก้อย รัชวิน อยู่ด้วยทุกโมเม้นต์ วิ่งเคียงข้าง ก้าวไปกับ ตูน บอดี้สแลม

17 December 2017
428   0

จากดีเจเสียงใส และนักแสดงมากฝีมือ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ สู่คนรักนักร้องซุปตาร์คนดังของประเทศ อย่าง ตูน บอดี้สแลม ทั้งสองคนจับมือผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ มาได้เป็นเวลากว่า 7 ปีแล้ว และถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของคู่รักที่วางตัวดีมาตลอด ไม่มีข่าวเสียหาย ตรงกันข้าม กลับมีแต่เรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นอยู่เสมอ

โดยฝ่ายชายเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ผมเจอเขาครั้งแรกที่คลื่น Fat Radio ตอนนั้นก้อย เป็นดีเจอยู่แล้วผมเอาซิงเกิ้ลเพลง ‘คิดฮอด’ ไปส่งและออกรายการในช่วงที่เขาเป็นดีเจพอดี เราประทับใจเพราะเขาฟังที่เราตอบคำถาม และถามคำถามเกี่ยวกับคำตอบที่เราตอบไป ผมรู้สึกว่าเขาใส่ใจ และแตกต่างจากคนอื่นเลยเกิดความประทับใจแล้วอีกอย่างก้อยก็ดูมีเสน่ห์”

สิ้นปี 2557 ความผิดหวังและเจ็บปวดใจก็เกิดขึ้นกับตูน บอดี้สแลม เมื่อคอนเสิร์ตใหญ่ ดัม-มะ-ชา-ติ ที่ตั้งใจไว้ว่าจะจัดขึ้นทั่วประเทศ กลับต้องยุติลงกลางทาง ด้วยเหตุผลขาดทุนและอีกมากมายหลายอย่าง ก้อย ในฐานะคนรัก เธอไม่ใช่แค่รับรู้ แต่เธออยู่เคียงข้างตูนในช่วงเวลาที่สภาพจิตใจกำลังย่ำแย่ เธอไม่เคยปล่อยมือจากคนที่เธอรักเลยสักครั้ง

ผ่านมาไม่นาน ตูน บอดี้ สแลม ก็สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับประเทศอีกครั้ง ด้วยการตัดสินใจวิ่งมาราธอน ระยะทางกว่า 400 ก.ม. เพื่อนำเงินบริจาคมอบให้กับโรงพยาบาลบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในครั้งนั้นเราได้เห็นก้อย วิ่งอยู่ข้างคนรักของเธอ และคอยเป็นกำลังใจสำคัญให้ทำความฝันนี้ได้สำเร็จ โดยโพสต์ข้อความถึงตูนไว้อย่างซึ้งใจว่า…

“การได้ก้าวไปกับพี่ในทุกๆ วัน มันคือความสุขของก้อย ทุกวันที่ได้วิ่งไปด้วยกันก้อยอาจจะอยู่ข้างพี่ๆบ้าง อยู่ข้างหลังบ้างเพราะก้อยวิ่งช้ากว่า แต่ก้อยก็ไม่เคยหยุดวิ่ง ทุกครั้งที่เห็นพี่อยู่ข้างหน้า มันทำให้ก้อยมีพลังอย่างประหลาด มันสุขใจ อุ่นใจ เหมือนเห็นสายน้ำที่ค่อยๆ ไหลไปอย่างช้าๆเคลื่อนที่แบบสบายๆ แต่มั่นคง มีรอยยิ้มและเสียงเชียร์ให้กำลังจากผู้คนระหว่างทางคอยเติมพลังให้อย่างไม่มีวันหมด ทุกครั้งที่ออกวิ่งมันมหัศจรรย์มากเลย เรามาได้ถึง 142.5 กม. แล้วนะ วันนี้ อีก 257.5 เท่านั้นก็จะถึงบางสะพานแล้ว สู้ไปด้วยกันนะ!”

ด้านนักร้องที่ผันตัวมาเป็นนักวิ่งอย่าง ตูน ก็ได้โพสต์ขอบคุณคนรักของเขากลับไปเช่นกัน

“ผมไม่ค่อยโรแมนติคอย่างใครเขา…ไม่ชอบพูดมาก พูดเยอะเลอะเทอะ แค่รู้สึกว่าอยากทำให้เห็นมากกว่า…เคยโดนว่าอยู่เสมอว่าไม่ค่อยให้ความสำคัญ จนมาถึงวันนี้เป็นเวลากว่าหกปีที่รู้จักและคบกันมา แค่อยากขอบคุณก้อย มากๆ ที่คอยอยู่ข้างกัน และเป็นมากกว่ากำลังใจที่สำคัญที่สุดในทุกๆ ‘ก้าว’ ของชีวิต”

หลังจากที่โปรเจ็ค “ก้าว” ได้ผ่านพ้นไปด้วยดี ทั้งคู่ก็ตัดสินใจเดินหน้าวิ่งต่อไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ ระยะทางยาวไกล 2,191 ก.ม. จากใต้สุดสู่เหนือสุดของประเทศ เพื่อสานฝันนำเงินบริจาคไปมอบให้กับโรงพยาบาล 11 แห่ง เพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ เธอเตรียมตัวฟิตร่างกายเป็นอย่างดี เพื่อที่จะได้วิ่งเคียงข้างกันอีกครั้ง

ข้อความหนึ่งบนอินสตาแกรม

“ระหว่างวิ่ง มีคำถามเกิดขึ้นมาในหัวว่า เรากลายเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง คนที่อยากตื่นเช้าแล้วออกมาวิ่งกับคนที่รัก คนที่อยากฝึกซ้อมเพื่อให้ตัวเองเป็นคนที่วิ่งได้ดีขึ้น แข็งแรงขึ้น โดยที่เราไม่ต้องรู้สึกฝืนหรือจำเป็นต้องทำ… รู้มั้ยว่าเพราะอะไร….เพื่อวันหนึ่ง เราจะได้วิ่งไปพร้อมๆกัน”

ผ่านมาสองวัน ก้อย ยังคงวิ่งอยู่เคียงข้างคนรักของเธอต่อไป ตลอดระยะทาง เธอคอยมอง สายตาแสดงออกถึงความเป็นห่วงอยู่เสมอ และยังคอยเป็นผู้ช่วย ถือถุงรับบริจาคให้กับตูนอีกด้วย ความจิตใจดีของเธอยังคงส่งต่อไปถึงชาวบ้านที่มารอให้กำลังใจ บางจังหวะมีน้องๆ นักเรียนมากันเป็นกลุ่มขอถ่ายรูปด้วย เธอไม่เคยบ่นหรือทำหน้ารำคาญ กลับบอกให้น้องๆ เขยิบไปถ่ายอีกมุมชิดถนนด้านใน เพื่อป้องกันไม่ให้รถที่วิ่งสวนไปมาเฉี่ยวชนเอาได้ เห็นอย่างนี้แล้ว ก็คงเข้าใจพี่ตูนในทันที ว่าทำไมถึงได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบกัน…..

Cr. Womenmthai

สำนักข่าววิหคนิวส์