ข่าวประจำวัน » #พิภพ แกนนำพธม. !! เลือกตั้งจะเสียงสวรรค์ หรือเสียงนรก ปฏิรูปไม่สำเร็จ

#พิภพ แกนนำพธม. !! เลือกตั้งจะเสียงสวรรค์ หรือเสียงนรก ปฏิรูปไม่สำเร็จ

12 November 2017
359   0

พิภพ ธงไชย อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย ได้โพสข้อความทาง FB : Pibhop Dhongchai ระบุว่า ใกล้ถึงฤดูเลือกตั้ง มีทั้งคนอยากให้เลือกตั้ง กับไม่อยาก รัฐธรรมนูญออกแบบเพื่อไม่ให้การเมืองกลับไปสู่สภาพเดิม คือ นรกบนดิน จนเกิดการต่อต้านที่แผ่ไพศาลมากกว่ายุคสมัยใด

นักการเมืองบอกว่า ประชาชนคือเสียงสวรรค์
แต่คนอืกจำนวนหนึ่งบอกว่ามันคือเสียงที่มาจากนรก
นรกกับสวรรค์ ดูจะเป็นข้อขัดแย้งในประวัติศาสตร์การเมืองไทยมาตลอด
ขอบอกว่า คำว่า”นรกกับสวรรค์” ไม่ได้หมายถึง”สี” ทางการเมือง เพราะสิ่งนี้มีมาก่อนเกิดการเมืองเรื่องของสี


ก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เรายกให้องค์พระมหากษัตริย์เป็นเสียงจากสวรรค์ เฉกเช่นองค์ฮ่องเต้ของจีน หรือองค์จักพรรดิของญี่ปุ่น หรือเสียงจากพระเจ้าขององค์กษัตริย์ในยุโรป
แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบการเมืองในยุโรป ประเทศต่างๆก็ตระหนักได้ว่า เสียงประชาชนนั้นเป็นได้ทั้งเสียงที่มาจาก”สวรรค์”และเสียงที่มาจาก”นรก”
เยอรมันนียุค Adolf Hitler ได้ให้คำตอบว่าเสียงประชาชนเป็นเสียงที่มาจากนรกอย่างแท้จริง จนหลังยุคสมัยฮิดเลอร์ เยอรมันนีคงต้องจัดระบบใหม่ ไม่ให้เกิดเสียงจากนรกมากำหนดชะตากรรมของชาติ และทำได้มาถึงวันนี้ 72 ปีแล้ว โดยขจัดกองทัพออกไป ไม่ใช่เพียงเพื่อไม่ให้สามารถฟื้นตัวเองมาก่อสงครามรุกรานได้เท่านั้น แต่ทำให้การเมืองถูกกำหนดใหม่ได้อย่างอิสระ
ญี่ปุ่นนั้นขจัดผู้กำหนดเสียงจากสวรรค์ออกไป โดยจำกัดเครื่องมือที่ถูกใช้ในอดีต ที่กำหนดเสียงแห่งสวรรค์ จนวันนี้ครบ 72 ปีเช่นกัน
แต่ทั้งเยอรมันนีและญี่ปุ่นทำไปพร้อมๆกันหลายเรื่อง เช่น เยอรมันนีทำให้เกิดระบบเศรษฐกิจเสรีและเป็นธรรม ปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปการศึกษา ให้เกิดสำนึกแบบ Civic Education และกระจายอำนาจ
ส่วนญี่ปุ่น ลดบทบาทสถาบันจักรพรรดิ ทำลายบริษัทยักษ์ใหญ่ ปฏิรูปที่ดิน สร้างระบบประชาธิปไตย ปฏิรูปการศึกษา กระจายอำนาจ ยกเลิกกองทัพ
อังกฤษ ฝรั่งเศศ ก็ปฏิรูปตัวเองมาตลอดส่วนอเมริกา จัดการผสมผสานเสียงจากสวรรค์กับเสียงจากนรกให้สมดุลกัน โดยสร้างระบบกลไกต่างๆมาคานกัน ตรวจสอบกัน กระจายอำนาจที่เป็นฐานมาตั้งแต่รวมประเทศ การเมืองมีความแน่นอนทุก 4 ปี กองทัพไม่แทรกแซงการเมือง ไม่ว่าจะเกิดความขัดแย้งในประเทศมากเพียงใด มีครั้งเดียวที่เกิดสงครามการเมือง แต่ระบบประธานาธิบดีก็เดินไปตามระบบที่ถูกวางไว้ตั้งแต่รัฐธรรมนูญถูกประกาศใช้
แต่บางคนก็บอกว่า ผู้อยู่หลังฉากทั้งหมดคือ กลุ่มทุนยิว ผู้กำหนดโลกให้เป็นไปตามผลประโยชน์ของทุน
ส่วนไทยทำไม่ได้ เพราะกองทัพซึ่งมีระบบแข็งแกร่งมาตั้งแต่ยุครัชกาลที่ 5 ยังเป็นตัวจัดการเสียงจากสวรรด์และเสียงจากนรก เมื่อมีความขัดแย้งกัน และระบบการปกครองบริหารประเทศยังคงโครงสร้างเดิมที่รัชการที่ 5 ทรงปฏิรูปประเทศ มาตั้งแต่ครั้งนั้น


กลับมาดูยุคสมัยปัจจุบัน รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ สร้างกลไกเพิ่มข้ึนมากกว่ารัฐธรรมนูญในอดีตทุกฉบับ แต่กองทัพก็ไม่แน่ใจว่า จะขจัดเสียงจากนรกออกไปได้ จนเสียงนั้นไม่มีอำนาจต่อรองใดๆ


อาจารย์พุทธทาสกล่าวว่า “ประชาธิปไตยต้องมีศิลธรรมเป็นรากฐาน ไม่อย่างนั้นจะเป็นประชาธิปไตยไม่ได้ ที่พูดกันว่า ประชาธิปไตยดีกว่าระบบใดนั้น หลับตาพูด คนไทยนับถือฝรั่งเป็นอาจารย์ เมื่อฝรั่งเขาว่าอย่างไร ก็พูดตามกันไปอย่างนั้น ว่าประชาธิปไตยนี้เพื่อประชาชน ของประชาชน โดยประชาชน แต่ลืมพูดไปว่าที่นี่มีศิลธรรม เมื่อไม่มีศิลธรรมเป็นพื้นฐานแล้ว ระบบประชาธิปไตยนั่นแหละ จะเป็นระบบที่เลวร้ายที่สุด”
ประชาชนส่วนหนึ่งบอกว่า ต่อให้สร้างเครื่องมืออะไรที่ใช้คุมเสียงสวรรค์ และเสียงนรกได้ ถ้าไม่ปฏิรูปใหญ่ก่อนส่งไปให้ประชาชนออกเสียงเลือกชนชั้นปกครอง รัฐธรรมนูญที่กำหนดตามใจประชาชนที่ออกมาชุมนุมใหญ่บนท้องถนนที่ยาวนาน กว่ายุคสมัยใดในประวัติศาสตร์ ว่า”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง” ถ้าเชื่อท่านอาจารย์พุทธทาส ก็ต้องเน้นที่”ศิลธรรม”ของประชาชนด้วย
แต่การเชื่อมต่อรัฐบาลที่มาจากการยึดอำนาจ มาทำหน้าที่ปฏิรูปประเทศ แทนตั้ง”องค์กรอิสระเพื่อการการปฏิรูป” ซึ่งรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้ การปฏิรูปประเทศจึงอยู่ในมือทหาร บวกมือระบบราชการ บวกมือระบบทุนนิยม
หรือ ประเทศเราไม่สามารถตั้ง”องค์กรอิสระ” ที่ประกอบไปด้วย “คนมีปัญญาที่อิสระ ฉลาดและมีความกล้าหาญทางจริยธรรม” ได้จริง
นายกรัฐมนตรี จึงต้องออกมาตั้งคำถามถึงสองครั้ง เพื่อทดสอบเสียงจากสวรรค์และเสียงจากนรก ว่าเห็นเช่นไร
ก็พอจะเดาได้ว่า การปฏิรูปประเทศครั้งนี้ ประเทศจะยังคงตกอยู่ในมือของคนกลุ่มใด และการขจัด หรือการสร้างความสมดุลระหว่างเสียงสวรรค์กับเสียงนรก ก็คงทำไม่ได้ต่อไป
หรือสังคมอาจต้องพึ่งระบบสมัยใหม่ เพื่อการปฏิรูปความคิด ไปสู่การปฏิรูปโครงสร้าง คือ Social midia ที่มีความเป็นอิสระที่สุดของยุคสมัย

สำนักข่าววิหคนิวส์