รองผบ.ตร.ยืนยันข้อมูลตรงกับ”บิ๊กป้อม”พบปูนั่งรถเผ่นออกทางสระแก้ว สั่งควานตัวคนขับรถเก๋งเป็นใคร อ้างรับรายงานทุกๆ5วันยังไม่พบข้อมูลเข้าเขมรแนวหน้า -8 ก.ย.60 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
แนวหน้า – รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ด้านความมั่นคง กล่าวถึงการติดตามตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หลังหลบหนีไม่มารับฟังคำพิพากษาในคดีรับจำนำข้าว ว่า มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ในการให้ข้อมูลของตำรวจจะพูดอะไรไปนั้น ความผิดอาญาต้องมีก่อน ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจน ถ้าความผิดอาญายังไม่เกิดให้ข้อมูลหรือชี้แจงไปก็อาจจะเกิดปัญหาภายหลัง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีเรื่องความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน โดยรัฐบาลย้ำให้ติดตามจับกุมให้ได้
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ไม่ทราบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำหลักฐานอะไรแสดงกับสื่อมวลชนพบหลักฐาน น.ส.ยิ่งลักษณ์ หลงไปทางด้านชายแดน จ.สระแก้ว แต่ยอมรับว่า จากการสืบสวนมีหลักฐานต้องสงสัยว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เดินทางไปด้าน จ.สระแก้ว แนวทางการสืบสวนของตำรวจพุ่งเป้าไปที่ จ.สระแก้ว เช่นกันได้รายงาน พล.ต.อ.ประวิตร ไปตั้งแต่ต้นแล้ว ข้อมูลนี้ที่ พล.อ.ประวิตร ระบุน่าจะเป็นข้อมูลของหน่วยความมั่นคงอื่นด้วย แต่ยอมรับว่าสอดคล้องกับข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ
เมื่อถามว่า รถต้องสงสัยที่อยู่ระบุเป็นคันเดียวกันที่ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านั้นหรือไม่ รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ใช่ รถคันที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ โดยสารไปเป็นคันเดียวกับที่ตนระบุว่าเป็นรถต้องสงสัยที่ตำรวจกำลังติดตาม โดยเป็นรถยนต์เก๋งแต่ไม่สามารถเปิดเผยยี่ห้อได้ ถึงแม้จะมีหลักฐานบางส่วนแต่ก็ยังไม่สามารถระบุแน่ชัดได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ออกนอกประเทศแล้วหรือไม่
รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ว่าพบความเคลื่อนไหว น.ส.ยิ่งลักษณ์ วันที่ 23 ส.ค.เวลา 14.00 น.ที่บ้านพักในซอยโยธินพัฒนา 3 นั้น ตอนนั้นรับว่าเป็นจุดสุดท้ายที่พบ ต่อมาเมื่อมีข้อมูลเพิ่มเติมก็พบว่าหลังจากออกจากบ้านพักในซอยโยธินพัฒนาในวันเดียวกันคือ 23 ส.ค.ก็พบข้อมูล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่ จ.สระแก้ว ในรถต้องสงสัยเป็นเวลาต่อเนื่องกันจุดสุดท้ายที่ จ.สระแก้ว
“ตอนนี้ยังหาตัวไม่ได้ว่าใครเป็นคนขับรถเกี่ยวข้องกับคนสนิท หรือกลุ่มการเมือง ก็ยังไม่ทราบ มีความพยายามในการสืบสวนสอบสวน แต่ก็ยอมรับว่ากล้องวงจรปิดบางกล้องชัด บางกล้องก็ไม่ชัด” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
ทั้งนี้ ถ้าพยานหลักฐานชี้ชัดว่า มีบุคคลพาหลบหนีออกนอกประเทศ ก็เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง ถ้ายังไม่มีหลักฐานก็ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้ ไม่ต้องถึงขั้นปิด จ.สระแก้ว เพื่อค้นหา ตำรวจต้องรวบรวมพยานวัตถุพยานบุคคลให้ชัดเจนก่อน หลังจากนี้ก็ต้องสืบสวนขยายผลต่อไป ยืนยันว่า ยังคงสืบสวนหาตัว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ให้ได้ว่าจากจุดนี้แล้วไปไหน ยังไม่ถึงทางตัน และไม่สามารถชี้ได้ว่าอยู่ในประเทศหรืออยู่นอกประเทศ ส่วนข้อมูลที่ส่งให้ทางกองทัพพิจารณาดำเนินคดี จะดำเนินคดีกับผู้ใดหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางกองทัพพิจารณา แต่ขณะนี้ยังไม่มีการประสานมาที่ตนแต่อย่างใด
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า หลังจากพบข้อมูลว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ปรากฏตัวครั้งสุดท้ายที่ จ.สระแก้ว ก็สันนิษฐานว่าจะหลบหนีออกไปประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าออกไปแล้วหรือไม่ ทั้งนี้ ได้ประสานไปยังประเทศกัมพูชาให้ผู้ช่วยทูตตำรวจของกองการต่างประเทศที่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา รายงานเข้ามาทุก 5 วัน ล่าสุดไม่พบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ เข้าไปในกัมพูชา ทุกประเทศที่สงสัยก็สอบถามย้ำไปทุกๆ 5 วัน ก็ยังไม่พบเช่นกัน
สำนักข่าววิหคนิวส์