ทีมงานวิหคนิวส์ต้องขอบอกเลยว่า สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวานเจอหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งเดินอุ้มท้องโตมาหาหมอที่โรงพยาบาล เธอบอกว่าท้องได้ 42 สัปดาห์แล้ว รู้สึกผิดปกติที่ยังไม่ปวดท้องและไม่มีทีท่าว่าจะคลอดลูกเลย จึงได้เดินทางมาให้คุณหมอตรวจครรภ์ดู เมื่อพยาบาลให้เธอนำสมุดฝากครรภ์ออกมา เธอกลับบอกว่า “ฉันไม่มีสมุดอะไรทั้งนั้น ฉันไม่เคยมาให้หมอตรวจครรภ์เลย เพราะแม่สามีของฉันบอกว่า ญาติของทั้งสองฝ่ายไม่มีประวัติคลอดลูกร่างกายผิดปกติมาก่อน จึงแน่ใจว่าลูกในครรภ์ก็ต้องแข็งแรงเหมือนกัน”
หลังจากพยาบาลได้ยินดังนั้นก็พูดไม่ออก ดูแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์รายนี้อายุยังน้อย พยาบาลจึงจัดการให้เธอไปตรวจอัลตราซาวนด์ เมื่อเห็นผลตรวจออกพยาบาลถึงกับอารมณ์ฉุนขึ้นมาทันที เพราะทารกในครรภ์อายุเพียง 38 สัปดาห์เท่านั้น ยังไม่ถึงกำหนดคลอด พยาบาลจึงบอกคุณแม่ตั้งครรภ์รายนี้ว่า “ทำไมถึงได้บอกอายุครรภ์ที่ผิดพลาดไปมากขนาดนี้” ทำเอาคุณแม่รายนี้อายจนต้องขออภัยพยาบาลกันยกใหญ่เลย!
คุณแม่รายนี้คงไม่เห็นความสำคัญของการฝากครรภ์ ที่จริงแล้วเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก วันนี้เราจะมาสอนวิธีนับอายุครรภ์มาฝากคะ
1.ขั้นตอนวิธีการนับจากประจำเดือน
นี้คือวิธีการนับที่นิยมใช้กัน 280 วัน หรือ 40 สัปดาห์ โดยนับจากวันสุดท้ายของประจำเดือนที่มาครั้งสุดท้าย จากนั้น + 9 เดือน หรือ -3 เดือน ส่วนวัน +เพิ่ม 7 วัน
เช่น หากประจำเดือนครั้งสุดท้ายมาวันที่ 15 เดือนตุลาคม
เพราะฉะนั้น กำหนดคลอดก็คือวันที่ 22 เดือนกรกฎาคม
2.ขั้นตอนวิธีนับการตั้งครรภ์ตามปฏิทิน
โดยเริ่มนับจากวันแรกที่ประจำเดือนมาครั้งสุดท้าย ก็สามารถคำนวณกำหนดคลอดได้ วิธีนี้อาจะมีคลาดเคลื่อนไป 2-3 วัน คำนวณเหมือนข้อที่ 1
3. การคำนวณจากการแพ้ท้อง
ส่วนใหญ่อาการแพ้ท้องจะเริ่มตั้งแต่การตั้งครรภ์ในสัปดาห์ที่ 4-5 จะมีอาการอยากอาเจียน นับตั้งแต่มีอาการแพ้ท้องไปอีก 250 วัน ก็คือวันกำหนดคลอดนั้นเอง บางคนมีอาการแพ้ท้องในเวลาที่ไม่แน่นอน เพราะฉะนั้นวิธีนี้จึงไม่แน่นำ เพราะอาจจะไม่ชัวร์ 100%
หวังว่าคุณแม่ทั้งหลายจะมีทารกน้อยที่แข็งแรงน่ารักกันทุกคนนะคะ