“ประวิตร”รู้ข่าวยิ่งลักษณ์โผล่อังกฤษจากสื่อเท่านั้น แต่ยังไม่ได้ตรวจสอบสถานะยื่นขอลี้ภัยหรือไม่ โยนเป็นหน้าที่ของตำรวจ-บัวแก้ว ขณะที่”ดอน”อ้างก็ยังไม่มีข้อมูลเช่นกัน ส่วนรองโฆษกอสส.เผยทางการผู้ดียังไม่ได้ยืนยัน แต่ถ้าปูได้สถานะถือเป็นนักการเมืองคนแรกของประเทศไทย
เมื่อวันที่ 8 ม.ค.61 naewna พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ยื่นขอสถานะลี้ภัยกับทางการอังกฤษ ว่า ยังไม่ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ เป็นหน้าที่ของตำรวจและกระทรวงการต่างประเทศ แต่ทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ อยู่ที่ประเทศอังกฤษตามที่ปรากฏภาพในข่าวต่างๆ
“ยังไม่ได้พิจารณาว่ารัฐบาลควรมีท่าทีหรือจุดยืนอย่างไรหากรัฐบาลอังกฤษให้สถานะนี้ภัยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะยังไม่ไปถึงจุดนั้น สื่อไม่ควรถามล่วงหน้า” พล.อ.ประวิตร กล่าว
ส่วนนักการเมืองที่เดินทางไปพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ที่อังกฤษนั้นจะมีความผิดหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะไม่รู้เหมือนกันว่ามีนักการเมืองคนใดเดินทางไปบ้าง ฝ่ายความมั่นคงยังไม่ได้รายงานและไม่รู้ว่าการปรากฏตัวของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ครั้งนี้เป็นการส่งสัญญาณอะไรหรือไม่
ขณะที่ นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยื่นคำขอลี้ภัยกับทางการอังกฤษ ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.60 และอยู่ระหว่างรอให้ทางการอังกฤษรับรองสถานะพาสปอร์ตเป็นผู้ลี้ภัย ว่า ตนยังไม่มีข้อมูลในเรื่องนี้
ส่วน พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตอบคำถามดังกล่าวกับสื่อมวลชนเมื่อถามว่ามองประเด็นนี้อย่างไร พล.อ.เฉลิมชัย ตอบเพียงสั้นๆว่า “ไม่มอง”
ส่วน นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ประเทศอังกฤษยังไม่มีการประสานเรื่อง น.ส.ยิ่งลักษณ์ มาที่สำนักงานอัยการสูงสุด ส่วนหากมีการขอลี้ภัยจริงก็เป็นขั้นตอนภายในของประเทศอังกฤษที่จะใช้ดุลพินิจ ส่วนความผิดของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะเข้าเกณฑ์การลี้ภัยของอังกฤษหรือไม่ก็เป็นอำนาจของประเทศอังกฤษพิจารณาเช่นกัน
“ที่ผ่านมายังไม่เคยมีผู้นำคนไหนของไทยลี้ภัยไปยังประเทศอังกฤษ ถ้าหาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ขอลี้ภัยจริงจะถือเป็นรายแรกของประเทศ รวมถึงก็ยังไม่เคยมีบุคคลใดมาขอลี้ภัยที่ประเทศไทย” นายธรัมพ์ ระบุ
ทั้งนี้ สำหรับหลักเกณฑ์การจะยื่นคำขอลี้ภัยในประเทศอังกฤษ จะต้องมีเหตุผลสำคัญว่าการไม่สามารถเดินทางกลับไปประเทศของตนได้ เพราะมีภัยคุกคาม เกรงกลัวถูกทรมาน ข่มเหง หรือมีพฤติการณ์ให้เป็นอันตรายต่อชีวิต หรือถูกดำเนินคดี อย่างไม่เป็นธรรม ซึ่งอาจเป็นมูลเหตุจากเรื่องต่างๆ อาทิ เชื้อชาติ ศาสนา สัญชาติ ความคิดเห็นทางการเมือง หรือสิ่งอื่นใดที่จะทำให้ผู้ยื่นคำขอลี้ภัย รวมถึงผู้ร้องขอไม่ได้ทำความผิดอาญาอย่างร้ายแรง เช่น การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ปล้นฆ่า
นอกจากนี้ ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติ ปี 2494 และไม่มีกฎหมายรับรองสถานภาพของผู้อพยพ และผู้แสวงหาลี้ภัย
ส่วนขั้นตอนของกฎหมายการส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในส่วนของสำนักงานอัยการรับผิดชอบ จะต้องได้รับการยืนยันจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนถึงถิ่นที่อยู่ของนางสาวยิ่งลักษณ์ที่แน่ชัด ถึงจะดำเนินการต่อได้ จากนั้นจึงจะร้องขอไปที่ประเทศผู้นั้นพำนักและร้องขอให้มีการจับกุมชั่วคราวและส่งคำร้องขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนภายใน 60 วัน ซึ่งถ้าคำร้องไม่เสร็จก็อาจมีการปล่อยตัว แต่ทั้งนี้การพิจารณาการจับกุมและการขอส่งตัวต้องขึ้นอยู่กับอำนาจอธิปไตยของรัฐนั้นๆ
สำนักข่าววิหคนิวส์