ข่าวประจำวัน » #“ประยุทธ์”ขอโทษเดินทางมาพบชาวปัตตานีช้าขออย่าเกลียด “ประวิตร”

#“ประยุทธ์”ขอโทษเดินทางมาพบชาวปัตตานีช้าขออย่าเกลียด “ประวิตร”

27 November 2017
411   0

“ประยุทธ์”ขอโทษเดินทางมาพบชาวปัตตานีช้าขออย่าเกลียด “ประวิตร” เพราะบ้านเมืองจะได้มีแต่คนดีๆ อย่ารังเกียจทหาร ชี้มีเพียงคนส่วนเดียวที่สร้างปัญหา ชูประเทศมุสลิมบอกรัฐทำถูกแล้ว สั่งตรวจสอบสต็อกยาง ขอให้ปลูกมะพร้าวทุกบ้าน ตวาดใส่ชาวประมง พูดจาดีๆ คิดถึงโลกด้วย

วันที่ 27 พ.ย.ที่ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มหาดไทย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และคณะ เดินทางมาถึงตำบลบางเขา โดยขบวนรถยนต์จากจังหวัดสงขลา ซึ่งใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง ทำให้กำหนดการล่าช้าออกไปจากเดิม

จากนั้นเวลา 11.00 น.นายกฯ และคณะเดินทางมาถึงตลาดกลางปศุสัตว์จังหวัดชายแดนภาคใต้ จ.ปัตตานี ซึ่งมีการแสดงทางวัฒนธรรมชุดระบำลังกาสุกะ เพื่อต้อนรับ ก่อนที่นายกฯ จะเป็นประธานพิธีเปิดป้าย และพบประชาชนกว่า 2 พันคน โดยนายกฯ กล่าวตอนหนึ่งว่า เป็นการพบปะชาวใต้อีกครั้งอย่างเป็นทางการ วันนี้เครื่องบินไม่สามารบินลงที่จ.ปัตตานีได้ทำให้ใช้เวลานาน ต้องขอโทษประชาชนด้วย แต่คนใต้น่ารักอยู่แล้ว วันนี้ที่เดินทางมาเพื่อทำความเข้าใจนโยบายของรัฐบาล ไม่ได้มาหาเสียง ซึ่งในส่วนจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินเป็น 6 ภาค มีจังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอในจังหวัดสงขลา ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ช่วงหนึ่ง นายกฯ ได้แนะนำฐมนตรีที่ร่วมเดินทางมา ซึ่งเมื่อแนะนำพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม นายกฯ ได้ระบุว่า งานความมั่นคงขณะนี้ดีขึ้นเรื่อยๆ และต่อไป เศรษฐกิจก็จะตามมา และขออย่าไปเกลียดท่านเพราะบ้านเมืองจะได้มีแต่คนดีๆ นอกจากนี้นายกฯ ยังถามประชาชนด้วยว่ารังเกียจทหารไหมและกล่าวว่า ขออย่ารังเกียจทหารเพราะเลือดสีเดียวกันทั้งนั้น พร้อมถามด้วยว่า ตั้งแต่เข้ามาทุกอย่างมีการพัฒนาขึ้นหรือไม่

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ทุกคนเป็นคนไทยทั้งสิ้นไม่ว่า เชื่อชาติใดก็ตาม แต่เมื่อมีสัญชาติไทย ก็เป็นคนไทยทั้งสิ้น มีสิทธิเหมือนกัน เพราะเป็นคนไทย จึงขออย่าให้ใครแบ่งแยก และแบ่งแยกไม่ได้ตามรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยมีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ศาสนา แต่ทุกคนต้องอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข จะขัดแย้งกันอีกไม่ได้แล้ว ไม่ว่าสาเหตุอะไรก็ตาม ต้องร่วมกันให้ได้ ต้องไม่ให้ใครทำลายได้ เพราะเรามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน จึงต้องช่วยกันขับเคลื่อนประเทศ เพราะวัฒนธรรมที่หลากหลายเป็นเสน่ห์ของไทย ไม่เหมือนต่างประเทศที่เป็นรูปแบบเดียวกันหมด อย่าสร้างความขัดแย้ง จะทำแบบเดิมไม่ได้อีกแล้ว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังเชื่อมโยงกับต่างประเทศที่ไม่มีอะไรกีดกั้นได้ โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียแต่เมื่อแพร่ไปแล้วไม่เกิดประโยชน์ก็ต้องหยุด ซึ่งรัฐบาลไม่ได้อยากใช้กฎหมายทุกตัวเพราะถ้าใช้คงไม่เป็นแบบนี้ และยืนยันว่าตนเองรับฟังทุกความคิดเห็นรัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชน แต่จะให้อย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องสร้างความเข้มแข็ง โดยเฉพาะข้าราชการที่ต้องพัฒนาตัวเอง ทั้งการจัดการ การใช้จ่ายงบฯ อย่างคุ้มค่า และหากใช้แต่กฎหมายในส่วนของตัวเองก็คงเดินหน้าไปไม่ได้ทั้งหมด ประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์ จึงขอให้ทุกคนตั้งเป้าหมายว่าให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด เพราะที่ผ่านมามีปัญหาทับซ้อนมานาน ตนไม่ได้มาหาเสียง แต่ต้องมาทำความเข้าใจ ว่าจะเดินหน้าประเทศอย่างไร เพราะตอนนี้มีปัญหาที่เข้ามาแทรกแซงมาก มีทั้งเรื่องจริงบ้างไม่จริงบ้าง ยืนยันว่ารัฐบาลนี้ทำมาเยอะมาก แต่อาจจะมาไม่ถึงในตอนนี้ แต่รัฐบาลนี้ทำเพื่อให้ประชาชนภาคใต้เข้าถึงทุกอย่างเหมือนคนภาคอื่นๆ และจะเร่งรัดอย่างเต็มที่

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ภาคใต้ ส่วนตัวมองว่าความสงบจะเกิดหรือไม่ อยู่ที่เราทั้งหมด เพราะเป็นเสียงส่วนใหญ่ เราเป็นคนยุติทุกอย่างได้ จะใช้กฎหมายอย่างเดียวไม่ได้ หากคนเป็นห่วงคนจังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ยิ่งพูดยิ่งทำก็ยิ่งไม่สงบกว่าเดิม ทั้งที่มีเพียงคนส่วนเดียวที่สร้างปัญหา คนส่วนใหญ่ต้องไม่ให้คนกลุ่มนี้ทำได้ ขณะที่ความแตกต่างศาสนานั้น ตนเดินทางไปประเทศมุสลิมต่างเข้าใจรัฐบาล และบอกว่ารัฐบาลทำถูกแล้วที่นอกจากเรื่องกฎหมายยังเน้นเรื่องการพัฒนา การช่วยเหลือเยียวยาซึ่งต้องแร่งดำเนินการ เพราะที่ผ่านมาอาจจะพูดคุยไม่เข้าใจ ยืนยันว่าจะต้องดูแลทั้งทหาร ตำรวจ ที่บาดเจ็บสูญเสีย และผู้ก่อความไม่สงบที่บาดเจ็บสูญเสียก็ต้องช่วยเหลือตามหลักมนุษยชนเช่นกัน เพราะเราต้องเดินตามกฎหมายของโลก

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า คนใต้สนใจการเมือง แต่ต้องคิดเรื่องการบ้านด้วยพร้อมๆ กับเรื่องการเมือง ซึ่งการลงมาประชุมที่ภาคใต้จะมีการลงทุนเรื่องโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ หลายโครงการที่งบประมาณจำนวนมาก แต่ต้องใช้เวลาทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องยางพารา ต้องแก้โดยการปลูกในพื้นที่ถูกต้อง และต้องดูแลการบุกรุกพื้นที่ป่าหรือภูเขา ยืนยันว่าแก้ปัญหาเรื่องยางพาราอย่างเต็มที่ และไม่เคยบิดเบือนข้อมูล ตนถามด้วยว่าจะบิดเบือนเพื่ออะไร เพื่อให้ตัวเองรอดหรือ แล้วประชาชนจะได้อะไร แต่ขอให้ทุกคนเข้าใจว่าการแก้ปัญหาต้องค่อยเป็นค่อยไป และต้องดูตลาดโลกด้วย นอกจากนี้ตนขอสั่งการให้มีการตรวจสอบสต็อกยางที่มีอยู่ทั้งหมดว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และใช้ยางในประเทศให้มากขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องทำ เป็นข้อสั่งการ ทั้งนี้ภาคการเกษตรมีราคาตกต่ำลงจริง และต้องแก้ปัญหาต่อไป แต่ภาคอื่นๆ เช่น การค้าขายที่ลดลงก็ต้องดูสภาพแวดล้อมอื่นๆ ด้วย ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้ทุกกระทรวงร่วมมือกันใช้ยางพาราปู อ่างเก็บน้ำ โดยเฉพาะในอ่างเก็บน้ำที่เก็บน้ำไม่อยู่ หากไม่ทำจะถือว่าไม่ปฏิบัติตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี

“ขอเกษตรกรชาวสวนยางพารา อย่าออกมาเดินขบวนประท้วง หรือ ออกมาวิ่ง เพื่อ เรียกร้องอะไรเลย รัฐบาล กำลัง หาทางแก้ไขปัญหาราคายางตกต่ำอยู่ ทั้งกระตุ้นให้เกิดการใช้ยางให้มากขึ้น ในด้านการคมนาคม. “ปล่อยให้ตูนเค้าวิ่งไปเถอะ พวกท่านไม่ต้องไปวิ่งประท้วง เดี่ยวจะผิดกฎหมายกันอีก” นายกฯ กล่าวและว่า ขอให้ประชาชนปลูกมะพร้าวทุกบ้าน วันหน้าจะขายได้และมีกำไร ปลูกไว้ไม่กี่ปีก็โตแล้ว และกลายเป็นสมบัติให้แก่ลูกหลานได้ ทุกวันนี้เราผลิตไม่พอ แต่รับจากต่างประเทศมาแปรรูป บางสวนเลิกทำก็ปล่อยมะพร้าวร่วงลงดิน เกิดปัญหาหนอนหัวดำ ตนขอสั่งการให้ตรวจสอบบ้านใดต้นกำเนิดหนอนหัวดำจะสั่งปรับ ขอให้ดูแลสวนด้วย

นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ขอให้อย่าคิดถึงแต่เรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง แต่หากจะเตรียมอะไรได้ก็เตรียม แต่ขอให้ทำเพื่อประชาชนก่อน ช่วยทำในสิ่งที่ รัฐบาลทำให้เดินหน้าต่อไปให้ได้ ถ้าอปท. อยู่ต่อ ก็ต้องช่วยกันทำแต่ ตนจะไม่เข้าไปแทรกแซง ส่วนการเดินหน้าประชาธิปไตยก็เป็นเรื่องของท่าน แต่ขอให้เลือกคนเหมาะสม มีวิสัยทัศน์ ทำงานตรวจสอบการทุจริต อย่าเลือกแต่คนที่สัญญา เพราะอาจทำให้ผิดกฎหมายหรืออาจมีกระทบต่องบประมาณของประเทศ

นายกฯ กล่าวว่า เด็กๆ สมัยนี้หมกหมุ่นกับหน้าตาตัวเอง แทนที่จะกลัวเจ็บป่วย แต่นี่ก็เหมือนป่วยที่ว่ากลัวตัวเองไม่สวย แต่ทุกคนสวย แต่สวยอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ขอให้สวยด้วยความดี ที่ผ่านมาเราหยิบวัฒนธรรม ต่างชาติเข้ามา แต่หยิบแต่สิ่งไม่ดีอย่างไรก็ตามตนไม่เคยว่าใครมีแต่คนชมว่า คนใต้น่ารัก ยิ้มได้เมื่อภัยมา แต่ต้นไม่ใช่ภัยของท่าน ถึงเรื่องมาถึงตรงนี้ได้สร้างเสียงหัวเราะของประชาชนที่มาฟัง ขอประชาชนคิดถึงตนบ้างวันละนิดก็พอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายกฯ จะเดินไปเยี่ยมชมนิทรรศการ นายภรัณยู เจริญ อายุ 34 ปี ชาวจ.ปัตตานี อาชีพทำการประมง ได้ ร้องเรียนนายกรัฐมนตรีอยากให้แก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการทำประมงที่กำหนดให้ ชาวประมง สามารถออกเรือไปทำประมงได้ 220 วันต่อปี ซึ่งถือว่าน้อยเกินไปทำให้ผู้ประกอบอาชีพประมงประสบกับภาวะขาดทุน เป็นหนี้เป็นสินจากต้นทุนที่สูงขึ้น อยากให้แก้กฎหมายเพิ่มวัน ระหว่างอธิบายนายภรัณยูได้ใช้เสียงดัง เพื่อเเข่งกับเสียงของนายกฯที่พูดผ่านไมล์โครโฟน ทำให้นายกฯไม่พอใจตะวาดนายภรัณยู กลับว่าไม่ควรมาขึ้นเสียงกับตน พูดดีๆก็ได้ ตนพร้อมรับฟังปัญหา แต่ต้องดูผลกระทบภาพรวมเรื่องประมงและการส่งออกด้วย หากขัดระเบียบกฎเกณฑ์ของต่างประเทศ จากนั้นเลขาธิการนายกรัฐมนตนรีได้ไปทำความเข้าใจกับนายภรัณยู และให้ไปเขียนคำร้องยังศูนย์ดำรงธรรม

สำนักข่าววิหคนิวส์