เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น และการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ตั้งแต่วันที่ 10 – 13 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทำให้เกิดน้ำไหลหลากและน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ 9 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี กำแพงเพชร สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา นครสวรรค์ ชัยนาท ตากและพิจิตร รวม 32 อำเภอ 212 ตำบล 1,211 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 51,669 ครัวเรือน 140,579 คน ผู้เสียชีวิต 3 ราย แยกเป็น
จ.กำแพงเพชร น้ำท่วม อ.พรานกระต่าย ประชาชนได้รับผลกระทบ 20 ครัวเรือน 56 คน จ.ตาก น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สอด อ.สามเงา อ.เมือง อ.บ้านตาก ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,523 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 1 ราย จ.พิจิตร น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ตะพานหิน อ.บางมูลนาก อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.สามง่าม ประชาชนได้รับผลกระทบ 6,928 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย จ.นครสวรรค์ น้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.ตาคลี อ.โกรกพระ ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,873 ครัวเรือน จ.ชัยนาท น้ำท่วม 4 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.สรรพยา อ.เมือง อ.วัดสิงห์ ประชาชนได้รับผลกระทบ 567 ครัวเรือน
จ.สิงห์บุรี น้ำท่วม 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมือง อ.พรหมบุรี ประชาชนได้รับผลกระทบ 4,073 ครัวเรือน จ.อ่างทอง น้ำท่วม 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ป่าโมก อ.วิเศษชัยชาญ อ.เมือง อ.โพธิ์ทอง อ.ไชโย ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,636 ครัวเรือน จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วม 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.เสนา อ.บางปะอิน อ.ผักไห่ อ.เมือง อ.บางไทร อ.บางปะหัน
ประชาชนได้รับผลกระทบ 25,454 ครัวเรือน และจ.ลพบุรี น้ำท่วม 1 อำเภอ ได้แก่ อ.บ้านหมี่ ประชาชนได้รับผลกระทบ 7,643 ครัวเรือน
นายชยพล กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศ ฉบับที่ 4 เรื่องพายุโซนร้อนขนุน ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าใกล้เกาะไหหลำ ประเทศจีน และประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 15-17 ตุลาคมนี้ อย่างไรก็ตามพายุนี้ยังไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในระยะ 1-2 วันนี้ ขณะเดียวกันร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน
และภาคตะวันออกในขณะที่ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่มาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
“ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัย พร้อมระดมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยสนับสนุนการแก้ไขปัญหาอุทกภัย
รวมถึงประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังสู่ลำน้ำสายหลัก พร้อมเชื่อมโยงการระบายน้ำในพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัด ตลอดจนดูแลชีวิตความเป็นอยู่และความปลอดภัยของผู้ประสบภัยเป็นหลัก ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางโทรศัพท์สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป”อธิบดีปภ. กล่าว
สำนักข่าววิหคนิวส์