30 ม.ค.61 สืบเนื่องจากกรณี ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ ประกาศลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์สำรวจความคิดเห็น สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพล-NIDA Poll)
แนวหน้า-หลังถูกห้ามเผยแพร่ผลโพลที่พาดพิงกรณีนาฬิกาหรูนับสิบเรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ซึ่ง รศ.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า-NIDA) ให้เหตุผลว่า เรื่องดังกล่าวสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบ จึงไม่ควรทำโพลที่สุ่มเสี่ยงต่อการชี้นำนั้น
ล่าสุด ผศ.สิงห์ สิงห์ขจร ประธานคณะกรรมการศูนย์สำรวจความคิดเห็น “บ้านสมเด็จโพลล์” มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กล่าวกับผู้สื่อข่าว นสพ.แนวหน้า ว่า สำหรับกระบวนการทำโพลของ มรภ.บ้านสมเด็จเจ้าพระยา จะมีคณะกรรมการซึ่งบางส่วนก็เป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย โดยจะมีการประชุมกันเรื่อยๆ ว่าช่วงไหนจะสำรวจความคิดเห็นเรื่องอะไรกันบ้าง และใช้ชุดคำถามประมาณไหน
“เมื่อคณะกรรมการตกลงผมก็เริ่มกระบวนการเก็บข้อมูล แล้วก็ประมวลผล จากนั้นก่อนจะเผยแพร่กับสื่อมวลชน ทางผู้บริหารก็จะขอดู แต่ขอดูเฉยๆ ว่าเรื่องอะไร เพื่อที่หากมีปัญหาอะไรจะได้ช่วยปกป้องให้ คืออย่างน้อยๆ ทางผู้บริหารได้เห็นชอบแล้ว อย่างก่อนหน้านี้ก็เคยทำโพลเกี่ยวกับนายกหลายๆ ท่าน ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่ก็ไม่เคยถูกระงับไม่ให้เผยแพร่” ผศ.สิงห์ กล่าว
ส่วนประเด็นที่อธิการบดีนิด้า ชี้แจงกรณีการทำโพลของ ดร.อานนท์ เป็นการทำโพลแบบเจาะไปที่ตัวบุคคลซึ่งเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ปธ.บ้านสมเด็จโพลล์ กล่าวว่า การทำโพลแบบเจาะไปที่ตัวบุคคลนั้นสามารถทำได้หากบุคคลนั้นเป็นบุคคลสาธารณะหรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคม เช่น นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี นักการเมือง ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานภาครัฐ ไปจนถึงดารานักร้องนักแสดง นักกีฬา หรือแม้แต่บุคคลที่กำลังเป็นกระแสสังคมในขณะนั้น
ปธ.บ้านสมเด็จโพลล์ ยังย้ำด้วยว่า ผลโพลที่ออกมาเป็นเพียงอารมณ์ความรู้สึกของคนในสังคม ณ ห้วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ซึ่งไม่มีผลต่อการพิจารณาคดีไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช.หรือแม้แต่ศาล เพราะทั้ง ป.ป.ช.และศาลนั้นพิจารณาคดีตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ นอกจากนี้ผลโพลนั้นจะแตกต่างไปจากนโยบายของภาครัฐก็ได้ เช่น ประชาชนสะท้อนผ่านผลโพลว่าราคาน้ำตาลแพง แต่หน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลอาจจะบอกว่าเหมาะสมแล้ว หรือผลโพลชี้ประชาชนอยากได้ค่าแรงขั้นต่ำวันละ 500 บาท แต่รัฐบาลอาจบอกว่าให้ได้เพียง 350 บาท เป็นต้น
“คำพิพากษาของศาลถือเป็นที่สิ้นสุด แต่ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิพากษาสามารถทำได้ แต่หากมีคำพิพากษาออกมาแล้วก็จะมีข้อระมัดระวัง ในคณะกรรมการก็จะมีกรรมการด้านนิติศาสตร์ เขาก็จะบอกว่าอันนี้ขอนะ อย่าทำเพราะจะไปละเมิดอำนาจศาล ก็จะมีการพูดคุยกันตลอด แต่ถ้าเป็น ป.ป.ช.จะคนละลักษณะกัน เพราะอำนาจศาลจะต่างกับ ป.ป.ช.” ผศ.สิงห์ ระบุ
สำนักข่าววิหคนิวส์
