นิวซีแลนด์กำลังจะได้จาซินดา อาเดิร์น เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 หลังเจรจาจัดต้ังพรรคร่วมรัฐบาลได้สำเร็จ โดยว่าที่นายกฯ คนใหม่มีนโยบายตรวจเข้มวีซ่าผู้อพยพและวีซ่านักเรียน
จาซินดา อาร์เดิร์น นักการเมืองหญิงวัย 37 ปีจากพรรคแรงงาน กำลังจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของนิวซีแลนด์ ซึ่งจะทำให้เธอเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนที่ 3 ของประเทศ และเป็นผู้นำอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากนายเอ็ดเวิร์ด สแตฟฟอร์ด ที่ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่ออายุ 37 ปีเช่นกัน แต่เกิดปลายปี
ก่อนหน้านี้ การจัดตั้งรัฐบาลยังคงไม่แน่นอนนัก หลังผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ออกมาว่าไม่มีพรรคไหนสามารถครองเสียงข้างมากในสภาได้เลย แต่หลังจากที่นายวินสตีน ปีเตอร์ส หัวหน้าพรรคนิวซีแลนด์ เฟิร์สต์ ตกลงเข้าร่วมรัฐบาลกับอาร์เดิร์น จะทำให้พรรคร่วมรัฐบาลสามารถครอง 55 ที่นั่งจากทั้งหมด 120 ที่นั่งในรัฐสภา อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลจะยังต้องพึ่งพาเสียงของพรรคกรีนและอื่นๆ เพื่อให้ได้เสียงเกิน 161 ในการผ่านร่างกฎหมาย ซึ่งพรรคกรีนก็จะสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาลในประเด็นต่างๆด้วย
นายปีเตอร์สให้เหตุผลที่ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคแรงงาน แทนที่จะเข้ากับพรรคอนุรักษ์นิยม เพราะเขาต้องการให้เกิดความเปลี่ยนแปลง หลังจากที่พรรคอนุรักษ์นิยมเป็นรัฐบาลมาตั้งแต่ปี 2008 เพราะชาวนิวซีแลนด์รู้สึกว่า ประเทศควรจะดีกว่านี้มาก แต่คนที่อยู่ในโครงสร้างอำนาจของประเทศจำนวนมากกลับเป็นบุคคลที่คนทั่วไปเข้าไม่ถึง ขณะที่อาร์เดิร์นก็ทำได้ดีมากในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แม้จะขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแรงงานได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
อาร์เดิร์นโดดเด่นในเส้นทางการเมืองมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น โดยเธอต้องการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม อาร์เดิร์นได้เข้าไปฝึกงานในที่ทำการรัฐบาลของเฮเลน คลาร์ก นายกรัฐมนตรีคนก่อนหน้าจากพรรคแรงงาน และยังไปเป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายให้กับนายโทนี แบลร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ต่อมาเมื่อเธออายุ 28 เธอก็ได้เข้าไปนั่งในสภาครั้งแรกในปี 2008
อาร์เดิร์นกล่าวว่า เธอมีแนวคิดประชาธิปไตยแบบสังคมนิยม หัวก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิสตรี และต้องการให้นิวซีแลนด์เป็นสาธารณรัฐ ซึ่งจะต้องมีการอภิปรายว่าจะยังให้สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษเป็นประมุขของประเทศต่อไปหรือไม่
นอกจากนี้ เธอสนับสนุนแนวคิดรัฐสวัสดิการ และมองว่าเป็นตาข่ายป้องกันที่จำเป็นสำหรับคนในสังคม และจะช่วยเหลือผู้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอกจากนี้ อาร์เดิร์นยังสนับสนุนกฎหมายการทำแท้ง สนับสนุนการงดเว้นดอกเบี้ยให้นักเรียนนักศึกษาที่กู้เงินเรียน ส่งเสริมให้มีการสอนภาษาเมารีในโรงเรียน
อาร์เดิร์นระบุว่า เธอเติบโตมาในครอบครัวที่นับถือศาสนาคริสต์ นิกายมอร์มอน แต่เธอตัดสินใจเลิกนับถือศาสนาในปี 2005 เนื่องจากเธอไม่เห็นด้วยกับหลักการหลายอย่างของมอร์มอน โดยเฉพาะเรื่องที่มอร์มอนต่อต้านการแต่งงานเพศเดียวกัน โดยเธอเคยจ่ายเงิน 20 ดอลลาร์ เพื่อให้เพิ่มชื่อเธอเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนกฎหมายคู่ชีวิตเมื่อปี 2004 และต่อมา ในปี 2013 เธอก็ลงมติเห็นชอบกฎหมายอนุญาตคู่รักเพศเดียวกันแต่งงานอย่างถูกกฎหมายในนิวซีแลนด์
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา อาร์เดินประกาศว่า จะลดจำนวนผู้อพยพเข้านิวซีแลนด์เหลือประมาณ 20,000 – 30,000 คน เนื่องจากนิวซีแลนด์มีปัญหาเชิงโครงสร้างที่ไม่มีแผนรองรับเกี่ยวกับการเติบโตของประชากร และไม่มีการจัดการปัญหาขาดแคลนแรงงานมีฝีมืออย่างเหมาะสม
อาร์เดิร์นเธอวางแผนว่า จะลดจำนวนผู้อพยพด้วยการออกมาตรการเข้มงวดในการให้วีซ่านักเรียน เนื่องจากมีการละเมิดวีซ่านักเรียนจำนวนมาก และจะหารือกับผู้ประกอบการต่างๆ เกี่ยวกับมาตรการที่จะจ้างงานชาวนิวซีแลนด์ก่อนที่จะจ้างผู้อพยพทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม พรรคแรงงานมีนโยบายจะเพิ่มโควตาการรับผู้ลี้ภัยขึ้นเป็น 750 คน และอาจมีการพิจารณารับผู้ลี้ภัยจากเกาะแมนัสของปาปัวนิวกินีด้วย
ที่มา news.tv
ธรรม รักษ์ธรรมธัญ วิหคนิวส์ รายงาน