นายกรัฐมนตรี ให้กำลังใจ “ประวิตร” ปมแหวน นาฬิกาหรู เชื่อเข้มแข็งพอ ดูแลตัวเองได้ รับกำลังดูอยู่ปลดล็อกพรรค เชื่อ “ชวน” หวังดี ส่งจดหมาย ยันเร่งแก้ราคายาง แจงไปกาฬสินธ์พรุ่งนี้ตรวจสอบร้องเรียน
inn-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กรณีแหวนเพชรและนาฬิกาหรู ว่า “ส่วนตัวให้กำลังใจมาตลอดอยู่แล้ว แต่ พล.อ.ประวิตร เป็นคนเข้มแข็งพอ เพราะเป็นทหาร ดูแลตัวเองได้ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย อย่ามองกันในทางที่แย่ไปทั้งหมด ซึ่ง นายกรัฐมนตรี มองว่า การที่ พล.อ.ประวิตร เจอแต่เรื่องว่า เพราะหลายคนจดจ้อง ต้องการตีให้ตีกัน แต่ตนเองแข็งแรง ยิ่งไม่มีคนอยู่ด้วย ก็ยิ่งดุกว่าเดิม จะใช้อำนาจเต็มที่
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปลดล็อคทางการเมืองว่า วันนี้มีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งอยู่แล้ว ซึ่งพรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ต่างกังวลในการปรับปรุงรายชื่อสมาชิกพรรคให้ทัน 180 วัน รัฐบาลกำลังดูแลในเรื่องนี้ว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างนักการเมืองเก่าและพรรคการเมืองใหม่ และสอดคล้องกับกฎหมายลูก แต่ถึงจะเร่งตรงนี้ก็ยังเลือกตั้งไม่ได้เพราะกฎหมายลูก 4 ฉบับแรกยังไม่แล้วเสร็จ แต่เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้วต้องปลดล็อกอยู่ดี ซึ่งจะทำเป็นขั้นๆ ไป เพราะพรรคการเมืองมีความจำเป็นต่างกัน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ส่วนตัวไม่สามารถสั่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้เร่งทำกฎหมายลูก หรือใช้อำนาจตาม ม.44 ได้ เพราะทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการที่ต้องผ่านการพิจารณา 3 วาระ กว่าจะกฎหมายจะออกมาแต่ละฉบับจึงช้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรป มีมติฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศไทยในทุกระดับว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีเพราะเป็นเรื่องที่รัฐบาลพยายามทำมาตลอด 3 ปี ซึ่งรัฐบาลพยายามทำให้ต่างประเทศเข้าใจถึงการบริหารราชการแผนดินของรัฐบาล คสช.ว่าทำอะไรไปบ้าง รวมทั้งยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ซึ่งทำให้ต่างประเทศเห็นเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการเดินหน้าประเทศและแก้ปัญหาติดขัดทั้งกฎหมายและการอำนวยความสะดวกต่างๆ และทราบดีว่าประเทศไทยมีโรดแมปจะเลือกตั้งในเดือน พฤศจิกายน 2561 ซึ่งส่วนตัวไม่เคยฝืนโรดแมป และคิดว่าทุกประเทศเข้าใจ เหลือแต่ไทยเองที่ไม่ค่อยเข้าใจกัน นักการเมืองก็พยายามพูดที่จะไปสู่ความขัดแย้ง กดดันรัฐบาล ดังนั้นการที่อียูมีมติเช่นนี้ ถือว่าไม่ใช่เงื่อนไข เพียงแต่ต้องการให้ไทยกลับสู้ประชาธิปไตย ซึ่งรัฐบาลพยายามทำที่จะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้น
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ ส่งจดหมายเปิดผนึกให้แก้ไขปัญหาราคายางพารา ว่า เชื่อว่านายชวน หวังดีเพราะเป็นคนดี แต่การเมืองไม่ใช่แบบนั้น พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ให้งบประมาณสนับสนุนภาคใต้มากรัฐบาลก่อนๆ ซึ่งวันนี้มีการหารือเรื่องการแก้ปัญหายางพาราในที่ประชุมครม. โดยยางในคลังจะเก็บไว้ก่อน และจะซื้อยางในตลาดเพื่อแปรรูปใช้ที่ส่วนราชการในประเทศ ซึ่งต้องหารือกับภาคการผลิตด้วย เชื่อว่าจะดีขึ้น นอกจากนี้จะลดปริมาณยางในตลาด ส่วนที่มีการระบุว่าราคายางพาราลดลงนั้น ลดลงตั้งแต่ปี 2558 เพราะเศรษฐกิจไม่ดี
ขณะที่ กล่าวถึงกรณีที่รัฐวิสาหกิจจีนเสนอขายรถเมล์เอ็นจีวีให้ ขสมก.ในราคาต่ำกว่าราคากลางที่ ขสมก.กำหนดว่า ได้สั่งการให้ตรวจสอบกับสถานทูตจีนแล้ว ซึ่งบริษัทดังกล่าวเป็นบริษัทของรัฐบาลท้องถิ่น จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เรื่องมาตรฐานต่างๆ ก่อน ซึ่งเรื่องนี้มีการประมูลไปแล้วและหากดำเนินการต่างๆ ถูกกฎหมายก็ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จ เพื่อให้มีรถเมล์ใหม่มารองรับก่อนเปิดภาคเรียนหน้า ส่วนบริษัทจีนที่มีข้อเสนอมานั้น ต้องหาข้อมูลเพิ่มเติม และอาจจะพิจารณาจัดซื้อในล็อตหน้า แต่หากเป็นการซื้อ-ขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี ก็ต้องเป็นการซื้อขายระหว่างรัฐบาลกลางของทั้งสองประเทศไม่ใช่รัฐบาลท้องถิ่นของจีน ซึ่งตนก็อยากได้ หากดีจริง แต่ต้องดูว่าทำได้จริงหรือไม่
พร้อมกล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเยี่ยมเยือนประชาชน ในวันพรุ่งนี้ ถึงกรณีที่ประชาชนมาร้องเรียนอุทกภัยน้ำท่วมบริเวณถนนหน้าเขื่อนลำปาวว่า ต้องไปดูถนนเส้นทางนี้ว่าเกิดน้ำท่วมได้อย่างไร เป็นการท่วมในน่านน้ำหรือไม่ที่มีการระบายน้ำในเขื่อนลำปาวออกมา หรือเป็นถนน ในเขื่อนและพื้นที่ในเขื่อน เท่าที่ตนเองทราบมาคือเป็นพื้นที่ในเขื่อน เมื่อมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนน้ำก็จะท่วมตลอดแต่จะท่วมในช่วงที่มีการระบายน้ำ เมื่อไม่มีการระบายน้ำประชาชนก็สามารถสัญจรไปได้ แต่วันนี้เขื่อนลำปาวได้มีการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ท่วมถนนเส้นนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งได้สั่งการให้ไปแก้ไขปัญหา และนำข้อมูลมาเสนอในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่รัฐบาลไม่สนใจที่ร้องเรียนมาตนก็แก้ให้หมดมีการระบายน้ำประชาชนก็สามารถสัญจรไปได้ แต่วันนี้เขื่อนลำปาวได้มีการระบายน้ำเพิ่มมากขึ้นจะทำให้ท่วมถนนเส้นนี้ประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งได้สั่งการให้ไปแก้ไขปัญหา และนำข้อมูลมาเสนอในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่รัฐบาลไม่สนใจที่ร้องเรียนมาตนก็แก้ให้หมด
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อดีตส.ส.สุโขทัย และแกนนำพรรคเพื่อไทย จะขอให้นายกฯจัดสรรงบประมาณ 5,000 ล้านบาทแก่ จ.สุโขทัย เนื่องในโอกาสที่นายกจัดประชุมครมสัญจรที่สุโขทัยว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ตนเองต้องไปพูดคุยกับพื้นที่กับทางจังหวัดอยู่แล้ว ทั้ง กรอ. หอการค้าอุสาหกรรมในพื้นที่รวมถึงภาคเอกชน ดังนั้นหากมีโครงการอะไรก็จะเสนอเข้ามา หากมีอยู่ในแผนงานประจำปีก็จะผลักดันให้เห็นผล แต่หากยังไม่มีก็จะจัดสรรหางบประมาณให้ตามความจำเป็น
ส่วนการจะให้รื้นฟื้นโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นั้นทุกคนทราบดีว่าที่ผ่านมา ไม่สามารถสร้างเขื่อนได้ เพราะติดพื้นที่ป่า ดังนั้นหากยังมีการต่อต้านเช่นเดิม ก็จะเกิดผลกระทบจากน้ำท่วมฝนแล้ง ซึ่งส่วนตัวก็พูดมานานแล้วว่าต้องมีการสร้างอ่างเก็บน้ำจะเล็กหรือใหญ่ก็ได้ เพื่อลดปริมาณที่จะไหลลงสู่ภาคกลาง ขณะที่ในวันนี้ได้อนุมัติโครงการศึกษาการระบายน้ำที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่เป็นพื้นที่ต้นน้ำที่จะทำให้น้ำไหลเข้าท่วมหล่ยพื้นที่ในภาคใต้ ซึ่งต้องใช้การผันน้ำลงสู่ทะเล และอาจต้องขยับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางผันน้ำ จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของประชาชนด้วย
สำนักข่าววิหคนิวส์