ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #นับถือหัวใจเธอ !!! เจาะชีวิต “หมอเจี๊ยบ ลลนา” แพทย์ห้องฉุกเฉิน ทำงานหนักยันเช้า บ่ายดึก ทุ่มเทสละเวลาเพื่อคนไข้ และความฝันในอนาคต “ฟรีคลินิกเพื่อผู้ยากไร้ !

#นับถือหัวใจเธอ !!! เจาะชีวิต “หมอเจี๊ยบ ลลนา” แพทย์ห้องฉุกเฉิน ทำงานหนักยันเช้า บ่ายดึก ทุ่มเทสละเวลาเพื่อคนไข้ และความฝันในอนาคต “ฟรีคลินิกเพื่อผู้ยากไร้ !

24 May 2017
919   0

อาชีพ”แพทย์” หรือ “หมอ” เป็นอาชีพที่ทุกคนรู้จักกันดี และหลายๆ คนก็มีความฝันที่อยากจะเป็น “หมอ” เเต่อาชีพนี้ต้องเเลกมาด้วยการทำงานหนักเเละต้องทำงานติดต่อกันมากกว่า 24 ชั่วโมง ต่อมาจะพบว่าอาชีพหมอ ต่างประสบปัญหาสุขภาพ อันเนื่องมาจากการทำงาน เเละเมื่อไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาว่า นพ.ฐาปกรณ์ ทองเกื้อ หรือ หมอบอล แพทย์ประจำโรงพยาบาลลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ป่วยระหว่างทำงานใช้ทุน แต่ยังเข้าเวรดูแลผู้ป่วยจนตัวเองเสียชีวิตด้วยโรคปอดติดเชื้อ ต่อมาบนโลกออนไลน์ได้เปิดเผยเรื่องราว พญ.พิชชาอร พงษ์ประเสริฐ อายุ 25 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโดยคนไข้ เหมือนเคสหมอบอล

ขณะที่โลกออนไลน์ได้มีการเเชร์เรื่องราว คุณหมอหน้าใส “หมอเจี๊ยบ แพทย์หญิงลลนา ก้องธรนินทร์” แพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี เเละหมอเจี๊ยบก็เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องทำงานหนักเหมือนคุณหมอท่านอื่นๆ แต่หมอเจี๊ยบกลับมองต่าง เห็นเสน่ห์ในการรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดคิด

หมอเจี๊ยบ ยังบอกอีกว่า สิ่งที่เธอต้องการความช่วยเหลือสังคมมากที่สุด นั่นคือ ฟรีคลินิก ทุกวันนี้การใช้ชีวิตเป็นหมอในห้องฉุกเฉิน ไม่ใช่เรื่องง่าย ถึงงานหนักจนแทบไม่มีเวลา แต่ด้วยการที่ได้ศึกษามาในด้านสุขภาพ ทำให้หมอเจี๊ยบ เข้าใจว่าจะต้องดูแลตัวเองอย่างไร ซึ่งมันอยู่ที่การบริหารจัดการของหมอเองมากกว่า หมอเจี๊ยบ จะเปิดฟรีคลินิกเพื่อผู้ยากไร้ ซึ่งโจทย์ท้าทายยังรออยู่อีกมากทั้งระบบการจัดการ หาทุนสนับสนุน และแพทย์เชียวชาญที่จะยื่นมือเข้าช่วย พลังใจที่พร้อมทำเพื่อผู้อื่นยังทำให้หมอเจี๊ยบขึ้นแท่นไอดอลตัวจริง

ทั้งนี้ หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์ เกิดวันที่ 25 กันยายน พ.ศ.2530 ทางด้านการศึกษาเธอศึกษาชั้นประถมที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ส่วนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นศึกษาที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน มัธยมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และจบการศึกษาแพทยศาสตร์บัณฑิตจากคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และเธอได้ตำแหน่ง นางสาวไทย ประจำปี พ.ศ. 2549 (คนที่ 42 ของประเทศไทย)

ขอบคุณเนื้อหาบางส่วนจาก : dodeden.com
AdminPhaitong สำนักข่าว vihok news