ความจำเป็นเลิศจบแค่ชั้น ป.4 บวชเรียนอยู่กับพระที่วัด แต่งบทกลอน และบทกวีเป็นภาษาบาลีเก็บสะสมไว้มากถึง 80,000 บท หรือประมาณ 17,000 แผ่นกระดาษ คุณทวดกล่าวทั้งน้ำตาอยากที่จะเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ อย่างมากแต่ไม่สามารถไปได้เนื่องจากสังขาร ไม่อำนวยแล้ว
ผู้สื่อข่าวจังหวัดตรัง รายงานว่าได้เดินทางไปพบ นายเที้ยม อาจกูล หรือ “ทวดเที้ยม” อายุ 85 ปี คุณทวด 4 แผ่นดิน เกิดปี พ.ศ.2475 บ้านเลขที่ 68 ม.5 บ้านหนองชวด ต.เกาะเปียะ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง หลังจากชาวบ้านขนานนามกันว่าทวดเที้ยมท่านนี้ได้แต่งบทกลอน และบทกวีสะสมไว้มากถึง 80,000 บท หรือประมาณ 17,000 แผ่นกระดาษและยังสามารถแต่งและยังท่องบทกลอนกันแบบสดๆได้โดยไม่ต้องเขียนแบบร่างไว้ก่อน และสามารถขับบทกลอนเพื่อถวายความอาลัยในหลวง รัชกาลที่ 9 ออกมาได้อย่างไพเราะเพราะพริ้งและมีความหมาย ความจำเป็นเลิศ
เมื่อเดินทางไปถึงพบกับ “ทวดเที้ยม” กำลังนั่งขะมักเขม้น อยู่กับการเขียนบทกลอนและบทกวี โดยใช้ด้ามหมึกเจลแท่งยาว ไม่มีปลอกเป็นปากกา เขียนตัวอักษรอย่างสวยงามเป็นตัวบรรจงเต็มบรรทัด คุณทวดยังสายตาดีไม่ต้องสวมแว่นตาในการเขียนตัวอักษรยังมองได้ชัดเจน สักพักระหว่างที่นั่งพูดจาปราศรัยทวดเที้ยมเข้าไปในห้องนอนแล้วลากกระเป๋าเดินทาง 3 ใบใหญ่ๆออกมา เมื่อเปิดออกมาพบว่าด้านใน เป็นกระดาษทั้งเก่าและใหม่ที่ใช้ในการเขียนบทกลอนและบทกวีเก็บสะสมไว้มาทั้งชีวิต
ขณะเดียวกันเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการสวรรคตของ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทวดเที้ยมก็ได้ท่องบทกลอนให้ผู้สื่อข่าวรับฟังด้วยท่องบทยาว เป็นวรรคเป็นตอน โดยที่ไม่ต้องเขียนร่าง มีความไพเราะและแฝงด้วยความหมายในตัวตามความรู้สึกนึกคิดที่ทวดเที้ยมสะท้อนออกมา โดยบทกลอนบางส่วนที่คุณทวดท่องสดให้ฟังว่า….
“เราต้องถือพุทธลูกเห้อ..ศาสนาเหมือนพระองค์ เหมือนพระมหากษัตริย์ เป็นปวงรัฐร่มเกล้าของชาวไทย
เป็นร่มโพธิ์ องค์ใหญ่ของชาวไทย ท่านไม่ให้ไหลหลง ทั้งหญิงชาย พ่อทำให้ลูกสบายไปทุกคน”และอีกตอนว่า…เราต้องรักษาสันติราษฎร์เอาไว้ ผมได้ไหว้ได้กราบพระเจ้า..เจ้าแผ่นดิน ลูกหลานมาไหว้เจ้าเมือง..เจ้าแผ่นดิน เพราะท่านสวรรคตไปถึงพ่อตายไปก็ยังไม่เหม็น ยังส่งกลิ่นหอมไป
เพราะท่านทำความดีเอาไว้..ถึงท่านตายไปก็ไม่เหม็น”…เป็นต้นฯ
สำนักข่าววิหคนิวส์