“ทักษิณ” ผัดข้าวเลี้ยงผู้อพยพ มอบเงินเป็นกำลังใจคนละ 1,000 บาท เจอแม่ลูกอ่อนมอบขวัญถุง 5,000 บาท ก่อนควักกระเป๋าเหมาร้านขนมโตเกียว ไส้กรอกอีสาน ปลาหมึกปิ้ง บอกได้ 2 ต่อ อุดหนุนชาวบ้าน ให้เขาเอาไปเลี้ยงชาวบ้านที่กำลังเดือดร้อน เจอชาวบ้านตะโกนถาม เป็นเพื่อน “ฮุนเซน” ทำไมให้เขามาฆ่าคนไทย
วันนี้ (26 ก.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางลงพื้นที่เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งไทย-กัมพูชา จนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน มาพักในศูนย์อพยพที่ทางราชการจัดเตรียมไว้ พร้อมรับฟังปัญหาและให้กำลังใจประชาชน และเจ้าหน้าที่
สำหรับบรรยากาศในช่วงเช้า พบว่าที่ศูนย์พักพิง ติดป้ายไวนิลตั้งแต่บริเวณทางเข้า ข้อความระบุว่า “ศูนย์ช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยการสู้รบ” พร้อมโลโก้พรรคเพื่อไทย ส่วนนายทักษิณ สวมเสื้อเชิ้ตสีเหลือง สวมกางเกงยีนส์ ในทันทีที่นายทักษิณเดินทางมาถึง ได้เข้าไปยังโรงครัวเพื่อผัดข้าวผัดหมู
หลังจากนั้นนายทักษิณได้เข้าไปพบปะพูดคุยและให้กำลังใจกับประชาชนที่อพยพมาจากต่างอำเภอ โดยชาวบ้านได้ร้องเพลง Happy Birthday ให้กับนายทักษิณ เนื่องจากวันนี้ เป็นวันคล้ายวันเกิดครบ 76 ปี ส่วนนายทักษิณ มอบเงินให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจ คนละ 1,000 บาท โดยมี นายสะอาด วงศ์รักษ์ นายอำเภอเดชอุดม, พ.ต.อ. วีรพันธ์ นาคสุข ผกก.สภ.เดชอุดม และเจ้าหน้าที่ เป็นผู้รับมอบเงิน เพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านในศูนย์อพยพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะที่นายทักษิณ ได้มาเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนนั้น ได้มี นางเอ (นามสมมติ) ชาวบ้าน ที่อพยพมาจากอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งญาติได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้เดินทางมาขอพบนายทักษิณ อยากถามว่า “ในเมื่อเป็นเพื่อนกับสมเด็จฯฮุนเซน ทำไมให้เพื่อนของเขามาทำกับคนไทยแบบนี้ ทำไมถึงได้มาสั่งฆ่าคนไทยมาระเบิดคนไทย”
ต่อมา นายทักษิณ ได้เดินทางไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์อพยพอีกแห่ง เมื่อไปถึงได้เข้าไปให้กำลังใจผู้ป่วยออทิสติกที่นอนอยู่ พร้อมมอบเงิน 1,000 บาท หลังจากนั้น ได้เจอกับ แม่ลูกอ่อน ที่เพิ่งจะคลอดลูกชายเพียง 26 วัน นายทักษิณ ได้สอบถามถึงสุขภาพและความเป็นอยู่ ก่อนจะควักจากเงินกระเป๋า 5,000 บาท เพื่อเป็นขวัญถุง พร้อมบอกให้ “อดทนนิด เดี๋ยวก็ได้กลับบ้านแล้ว”
นอกจากนี้ ยังได้ เหมาร้านขนมโตเกียว 2,000 บาท ร้านไส้กรอกอีสาน 2,000 บาท และ ร้านน้ำดื่มและปลาหมึกย่างเป็นเงิน 6,000 บาท โดยย้ำว่าให้ประกอบอาหาร แล้วนำมาแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่อยู่ภายในศูนย์อพยพ พร้อมกับบอกสั้น ๆ ว่า “เราอุดหนุนชาวบ้าน ให้เขาได้นำไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย ถือว่าได้ 2 ต่อ “