ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ดอน ยิ้มรับ ไม่ลาออก ไม่หวั่นแรงกดดัน แม้เป็นบุคคลขัดต่อรธน.

#ดอน ยิ้มรับ ไม่ลาออก ไม่หวั่นแรงกดดัน แม้เป็นบุคคลขัดต่อรธน.

5 June 2018
593   0

“ดอน” ยิ้มรับ ไม่ลาออก ไม่หวั่นแรงกดดัน รอศาลตัดสิน เผย ภรรยาเคลียร์หุ้นเรียบร้อยแล้ว

เมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 5 มิ.ย. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีมติเห็นว่าการถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ของภรรยาโดยไม่แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ขัดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี จนมีกระแสกดดันให้ลาออกว่า ถ้าตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง ก็คงไม่มาร่วมประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ในวันนี้ และคงไม่เดินมาในช่องทางที่เคยมาประจำ ซึ่งเรื่องนี้ยังไม่ได้พูดคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมาได้คุยกันในหลายเรื่อง แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ประเด็น

เมื่อถามว่ายืนยันจะปฏิบัติหน้าที่ต่อใช่หรือไม่ นายดอน กล่าวอย่างยิ้มแย้มว่า คำตอบอยู่ในใบหน้านี้แล้ว ไม่รู้สึกกดดัน เพราะกระแสกดดันเป็นเรื่องที่ทุกคนต่างสรุปกัน ส่วนเรื่องนี้ก็ค่อยว่ากันไป ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ต้องรอให้มีความชัดเจนจากศาลรัฐธรรมนูญก่อน เราตอบได้เพียงตามกระแสข่าว

“แรงกดดันที่ใครต่อใครพูดถึง จะตีความว่าเป็นการกดดันหรือไม่ก็อยู่ที่เรา จะถือว่าเป็นการกดดันหรือทักทาย หรือการแสดงความห่วงใย สนใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ อยู่ที่ว่าเราจะคิดเห็นอย่างไร ขณะนี้ก็อย่างที่ว่า คำตอบอยู่บนใบหน้าแล้ว ยืนยันว่าไม่กดดัน เราทำงานของเราไป อย่างไรก็ตาม เรื่องหุ้นนั้นภรรยาได้เคลียร์เรียบร้อยแล้ว โดยหุ้นนี้เป็นมรดกของครอบครัวภรรยา” นายดอน กล่าว

เมื่อถามว่าขณะนี้ภรรยาถือหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์ นายดอน กล่าวว่า ถือน้อยว่า 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนของลูกชายตนไม่รู้เรื่อง เพราะจริงๆแล้วตนไม่เคยรู้เลยว่าภรรยามีหุ้นกี่เปอร์เซ็นต์อะไรบ้าง เพราะเขารับมรดกมาเป็นเวลากว่า 37 ปีแล้ว เป็นของครอบครัว แต่เมื่อกฎหมายบอกว่าต้องไม่ถือหุ้นเกิน 5 เปอร์เซ็นต์ ก็ต้องดำเนินการไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายดอน ให้สัมภาษณ์ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งภายหลังการให้สัมภาษณ์ยังชูนิ้วโป้ง ให้สื่อมวลชนเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่รู้สึกกดดัน
นอกจากนี้นายดอน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีมีหมายกำหนดการจะเดินทางเยือนอังกฤษและฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 20 – 25 มิ.ย.นี้ โดยขณะนี้รอความชัดเจนว่าจะมีการหารือในด้านใดบ้าง โดยกระทรวงการต่างประเทศได้เตรียมตัวอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่มีการปรับความสัมพันธ์กัน และได้พูดคุยเบื้องต้นกันแล้วในเดือนมี.ค. การเยือนครั้งนี้ถือว่าทั้ง 2 ประเทศได้เปิดประตูต้อนรับไทย เราจะพูดคุยในหลายๆเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อชาติ นอกจากนี้ยังมีรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งเอเชียและยุโรปติดต่อมาเพื่อจะเดินทางเยือนไทยด้วย

สำนักข่าววิหคนิวส์