ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ดร.เทอดศักดิ์ ชี้ทางออกประเทศไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงแต่ใช่หลักการที่ถูกต้อง

#ดร.เทอดศักดิ์ ชี้ทางออกประเทศไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงแต่ใช่หลักการที่ถูกต้อง

19 May 2019
1580   0

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองการปกครอง ได้โพสต์ข้อความส่วนตัวระบุว่าเกมส์การเมืองมาถึงจุดนี้ เพราะคณะรัฐประหาร คสช. ถูกล่อเข้าสู่เลือกตั้ง ตามหลักการต่อต้านรัฐประหาร มาทำในงานที่ไม่ถนัด ที่มีหลักคิดมาจากนายควง อภัยวงค์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัติย์ ได้ล่อคณะราษฏร มาฆ่าทางการเมือง โดยใช้วาทกรรม ที่สำคัญในประวัติศาสตร์ “ต่อต้านเผด็จการทหาร”

ตามหลักการต่อต้านการรัฐประหาร ในเชิงภาคปฏิบัติการแล้ว จะเกิดตัวแปรตามมา “มิตรจะกลายเป็นศัตรู” จะเกิดขึ้นในประการแรก และตามมาด้วย “ประชาชนแห่ไล่” และ “ไร้แผ่นดินอยู่” ตามลำดับ

สมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม จอมพลถนอม จอมพลประภาศ จารุเสถียร ศ.ดร.ปรีดีย์ พนมยงค์ ดร.ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องเผชิญในปลายชีวิตในลักษณะเดียวกัน ตามโครงสร้างเชิงภาคปฏิบัติการ

เพราะคณะรัฐประหารทุกคณะ จะต้องการทำทุกอย่างเพื่อชนะเลือกตั้ง ยุคสมัยจอมพล ป. จัดเลือกตั้ง 26 กุมภาพันธ์ 2500 ตกภพโลกาวินาศ อันเป็นภพเดียว กับการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ของคณะคสช. จนถูกขนานามว่าเป็นการ “เลือกตั้งสกปรก” โดยมีนายควง อภัยวงค์ นำพรรคเข้าต่อสู้กับพรรคเสรีมนังคศิลา ของจมพล ป. จนผลจากการเลือกตั้งครั้งนั้น แม้พรรคเสรีมนังคศิลา จะชนะ

ก็เกิดความวุ่นวาย จอมพล ป. พิบูลสงคราม ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ในวันเดียวกันนั้น ต่อมาเมื่อขบวนผู้ชุมนุมมาถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก ที่ทางจอมพล ป.แต่งตั้งให้เป็นผู้ควบคุมดูแลสถานการณ์ กลับถอดหมวกโบกรับกลุ่มผู้ชุมนุม โดยกล่าวว่าทหารจะไม่มีวันทำร้ายประชาชน และนำพาผู้ชุมนุมเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อเจรจากับ จอมพล ป.เอง

ที่สุด จอมพล ป.ต้องลงมาเจรจาด้วยตนเองที่สนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และได้ข้อสรุปว่า จอมพล ป.ยอมรับว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์และจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ การชุมนุมจึงสลายตัวไป และมีการยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2500

แต่ต่อมาเหตุการณ์ได้ขยายตัวและบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งกันระหว่างกลุ่มทหารและตำรวจที่สนับสนุน จอมพล ป. พิบูลสงคราม และ จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ผู้บัญชาการทหารบก จนกลายเป็นการรัฐประหารในวันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2500 ในที่สุด

การที่คณะรัฐประหารยุค คสช. ถูกล่อเข้าเลือกตั้ง โดยหลงใช้วาทกรรม “โรดแม็บ-เลือกตั้ง” ทำทุกอย่างเพื่อสืบทอดอำนาจ จึงทำลายมหามิตรอย่างพรรคประชาธิปัติย์ แบ่งแยกพรรค สกัดหัวหน้าพรรค ทำให้คนที่เหลือในพรรคส่วนใหญ่ที่ผ่านโลกมามาก จึงหันใช้อุดมการณ์พรรค “ต่อต้านเผด็จการทหาร”

จนทำให้สถานการณ์มาเป็นเช่นนี้ ทำให้ประชาธิปัติย์ไม่เล่นด้วย ต้องมาเล่นเกมส์ “ตายเพื่อเกิดใหม่” (reboot) เพราะถ้าเดินต่อด้วย ตายกับตาย พรรคตาย จะไม่มีความชอบธรรมกลับมาต่อสู้ปกป้อง สถาบัน ตามหลักสำคัญของอุดมการณ์ที่แท้จริงพรรคได้อีก ที่พรรคตั้งในวันที่ 6 เมษายน 2489 (วันจักรี) เวลา 09.09 น. ราชาฤกษ์

ซึ่งเป็นวันเดียวกับพรรคภูมิใจไทย แม้ก่อตั้ง วันที่ 5 พฤษภาคม 2551 แต่จะยึดวันที่ 6 เมษายน (วันจักรี) เป็นวันก่อตั้ง และทำบุญพรรค เป็นประจำทุกปี หลังจากนาย เนวิน ชิดชอบ พร้อมกับพวก หลุดพ้นคดีกล้ายาง โดยทั้ง 2 พรรค ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนจะร่วมกับใครในการจัดตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดความระส่ำระสายไปทั่ว โดยเฉพาะพรรคทหาร เพราะใครเข้าร่วมก็เตรียม “สูญพันธ์ทางการเมือง”

แม้เหตุการณ์จะเป็นเช่นนี้ เป็นนายกได้ แต่บริหารไม่ได้ ต้องตายในสภา คือถูกขับไล่ในสภาด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถูกเหยียดหยาม ดูถูก หยามเกียรติ หรือถูกม๊อบมาขับไล่ เหมือนประวัติศาสตร์ไทยตลอด 87 ปี ก็เท่านั้นเอง แต่ถ้ามีม๊อบเกมส์นี้จะต่างจากทุกครั้ง เพราะจะลามถึงสถาบันฯ

และพรรคที่จะชนะหากมีการเลือกตั้งใหม่ คือพรรคที่เป็นแกนนำต่อต้านเผด็จการทหาร ตามสถิติ และประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ที่พรรคนำม๊อบ จะกลายเป็นผู้ชนะ เช่น เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ จึงเกิดพรรคพลังธรรม ของ พลตรี จำลอง ศรีเมือง ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2531 และยุบพรรคในปี พ.ศ. 2550 เป็นพรรคการเมืองที่เคยได้รับคะแนนความนิยมโดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ได้สส.32 ที่นั่งจาก 35 ที่นั่งในสภา

และเหตุการณ์ พฤษภาทะเลเพลิง ที่เริ่มต้น 18 พฤษภาคม 2553 เวลา 20.09 น. โจโลฤกษ์ ในการสลายการชุมกลุ่มคนเสื้อแดง จนส่งผลให้ พรรคเพื่อไทย สามารถชนะเลือกตั้ง และได้ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554 หลังการเลือกตั้งทั่วไป

ทางออกประเทศไม่ได้เป็นเรื่องยาก เพียงแต่ใช่หลักการที่ถูกต้อง เมื่อเสียงไม่เพียงพอ ก็สามารถทำได้ คือ หานายกคนกลางที่ทุกฝ่ายยอมรับ ที่ต้องใช้เสียงทั้งวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎร 500 เสียงขึ้นไปตามรัฐธรรมนูญ หากไม่มีเสียงเพียงพอ หรือขัดข้องจะไปแบบเท่ๆ มีเกียรติ ก็เข้าเฝ้าขอพระบรมราขวินิจฉัย ก่อนจะมีการจะโหวดนายกรัฐมนตรีของทั้ง 2 สภา อันจะสามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญหมวดพระมหากษัตริย์ ในรัฐธรรมนูญ 2560

สิ่งเหล่านี้คือทางออก ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ ผู้ที่ในหลวงในรัชกาลที่ 9 ทรงยกย่องว่าเป็น “รัฐบุรุษ” เพราะช่วยแก้วิกฤติการพฤภาทมิฬ จนสื่อมวลชนได้ยกย่องว่าเป็น “วีระบุรษประชาธิปไตย” เคยเขียนหนังสือไว้ว่า ชีวิตย์มนุษย์ไม่มีคำว่ามืดแปดด้าน ต้องหาทางออกให้เจอ ก็จะผ่านวิกฤติของชีวิตมาได้

“ ตำแหน่งอยู่ได้ไม่นาน แต่ตำนานอยู่ตลอดไป “

ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
18 พฤษภาคม 2562

สำนักข่าววิหคนิวส์