ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #ดร.อาทิตย์ ขอบคุณ !! ม.รังสิตคว้ามหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ1ของประเทศ

#ดร.อาทิตย์ ขอบคุณ !! ม.รังสิตคว้ามหาวิทยาลัยเอกชนอันดับ1ของประเทศ

14 June 2018
1116   0

ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต ได้โพสข้อความระบุว่า ขอแสดงความยินดีกับทุกวิทยาลัย และทุกคณะที่ทำให้มหาวิทยาลัยรังสิตเป็นอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยเอกชน และที่ 19 ของประเทศไทย

จากผลการสำรวจมหาวิทยาลัย10 อันดับมหาวิทยาลัยเอกชนยอดนิยม ที่สุดในไทย ตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา ตามเกณฑ์การประเมินของ Webometrics เว็บไซต์การจัดอันดับมหาวิทยาลัยชื่อดังจากประเทศสเปน ได้ประกาศผลการจัดอันดับ Webometrics Ranking of World Universities หรือ “Ranking Web of World Universities” โดยเน้นไปที่ผลงานทางวิชาการที่เผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต นอกเหนือจากการวัดด้วยดัชนีการตีพิมพ์ผลงานวิจัยและการอ้างอิงผลงานวิจัย เรียกง่ายๆ ว่าวัดความเป็นมหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ (E-university)

เกณฑ์การประเมินประกอบด้วย
1.ACTIVITY (50%) : PRESENCE, OPENNESS และ EXCELLENCE
2.VISIBILITY (50%) : IMPACT
โดยอันดับ 1 มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยตกเป็นของ “มหาวิทยาลัยมหิดล” อันดับสอง “จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” และอันดับที่ 3 “มหาวิทยาลัยขอนแก่น” หากลองคัดเลือกเฉพาะ “มหาวิทยาลัยเอกชน” ดูบ้าง ผลการจัดอันดับ 10 มหาวิทยาลัยเอกชนที่ดีที่สุด มีดังนี้

อันดับที่ 10 : มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต (Kasem Bundit University)

โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต อยู่ในอันดับที่ 63 ของประเทศไทย และอันดับที่ 4279 ของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530ปัจจุบันได้พัฒนาหลักสูตรและสาขาวิชาต่างๆ มากมาย ซึ่งก่อนจะมาจัดตั้งเป็นมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ได้เริ่มดำเนินการเปิดเป็นโรงเรียนในระดับประถม และมัธยมศึกษา มาก่อน จากนั้นค่อยพัฒนามาเป็นในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ และวิชาชีพชั้นสูง เรื่อยมาจนกลายมาเป็น “วิทยาลัยเกษมบัณฑิต” เปิดสอน 2 สาขาคือ คณะบริหารธุรกิจ และคณะนิติศาสตร์ จนเมื่อปี พ.ศ. 2536 จึงได้เปลี่ยนเป็น “มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต” ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิตมีทั้งสิ้น 2 วิทยาเขตด้วยกันคือ วิทยาเขตพัฒนาการ และ วิทยาเขตร่มเกล้า

อันดับที่ 9 : มหาวิทยาลัยศรีปทุม (Sripatum University)

มหาวิทยาลัยศรีปทุม อันได้ชื่อว่า “เป็นบ่อเกิดแห่งวิชาที่เบิกบานเช่นดอกบัว” ได้รับพระราชทานนามจาก สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนอันดับต้น ๆ เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2513 และได้รับการเปลี่ยนสถานะเป็นมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ. 2530 มีทั้งหมด 4 วิทยาเขตด้วยกันคือ วิทยาเขตบางเขน วิทยาเขตชลบุรี วิทยาคารพญาไท และวิทยาเขตขอนแก่น โดยเปิดสอนตั้งแต่หลักสูตรปริญญาตรี จนถึงปริญญาเอก รวมทั้งมีสาขาวิชาให้เลือกมากมายในแต่ละหลักสูตรอีกด้วย จากเว็บโอเมตริกซ์มหาวิทยาลัยศรีปทุมอยู่ในอันดับที่ 60 ของประเทศไทย และอันดับที่ 4245 จากการจัดอันดับโลก

อันดับที่ 8 : มหาวิทยาลัยราชธานี (Ratchathani University)

มหาวิทยาลัยเอกชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เดิมชื่อ “วิทยาลัยเทคโนโลยีราชธานี” และได้เปลี่ยนสถานะเป็น “มหาวิทยาลัยราชธานี” เมื่อวันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2546 ปัจจุบันมหาวิทยาลัยราชธานีได้เปิดำเนินการสอน 5 คณะ 14 สาขาวิชา ในระดับปริญญาตรีและระดับบัณฑิตศึกษา โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยราชธานีได้รับการจัดอันดับจากเว็บโอเมตริกซ์ในอันดับที่ 46 ของประเทศไทย และอันดับที่ 3351 ของโลก

อันดับที่ 7 : มหาวิทยาลัยสยาม (Siam University)

มหาวิทยาลัยสยาม หรือชื่อย่อ มส. มหาวิทยาลัยสยาม เป็น 1 ใน 5 มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกในประเทศไทยที่ได้รับการริเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2508 เดิมชื่อว่า “วิทยาลัยเทคนิคสยาม” ต่อมาในปี พ.ศ. 2529 ได้เปลี่ยนสถานภาพเป็น “มหาวิทยาลัยเทคนิคสยาม” ต่อมาตัดคำว่าเทคนิคออกจึงเหลือเพียง “มหาวิทยาลัยสยาม” มาจนถึงปัจจุบัน นับได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่มากที่สุดในย่านธนบุรี ทำให้มหาวิทยาลัยสยามติดอยู่ในอันดับที่ 42 มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และอันดับที่ 3226 ของโลก

อันดับที่ 6 : มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ (Huachiew Chalermprakiet University)

มหาวิทยาลัยที่มีรากฐานมาจากพลังศรัทธา และการบรรเทาสาธารณภัยเพื่อมวลชน ของ “มูลนิธิฮั้วเคี้ยวป่อเต็กเซี่ยงตึ๊ง” ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลจีนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย แต่เดิมได้ก่อกำเนิดมาจากโรงเรียนผดุงครรภ์อนามัย และได้มาตั้งเป็น “วิทยาลัยหัวเฉียว” โดยเปิดสอนหลักสูตรพยาบาล ในระดับปริญญาตรีเป็นหลักสูตรแรก ก่อนที่จะได้รับการยกสถานะเป็น “มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ” ในปัจจุบัน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวได้ขยายหลักสูตรการศึกษาออกไปมากมาย ทั้งในระดับปริญญาตรี โท เอก และหลักสูตรนานาชาติให้ได้เลือกศึกษากัน โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยหัวเฉียวอยู่ในอันดับที่ 34 มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และอันดับที่ 2910 ของโลก

อันดับที่ 5 : มหาวิทยาลัยพายัพ (Payap University)

เรียกได้ว่าเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งแรกของภาคเหนือ ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2517 ตั้งอยู่ที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ ก่อกำเนิดมาจากคริสต์ศาสนานิกายโปรเตสแตนทเข้ามาประกาศเผยแพร่ครั้งแรกในประเทศไทย เริ่มแรกใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยคริสเตียนพายัพ” ในปี พ.ศ. 2514 และเปลี่ยนมาเป็น “วิทยาลัยพายัพ” และเปิดสอนอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2517 โดยเปิดสอนทั้งหมด 8 สาขาวิชา คือ สาขาวิชาภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ดุริยศิลป์ ประวัติศาสตร์ ปรัชญาศาสนา สังคมวิทยา-มานุษยวิทยา การบริหารงานบุคคล และอนุปริญญาพยาบาลและอนามัย ต่อมาจึงได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัยเปลี่ยนประเภทจากวิทยาลัยเป็นมหาวิทยาลัย และเปลี่ยนชื่อมาเป็น “มหาวิทยาลัยพายัพ” ในปี พ.ศ.2527 เป็นต้นมา และจากการจัดอันดับ webometrics ได้อันดับที่ 33 มหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย และอันดับที่ 2904 ของโลก

อันดับที่ 4 : มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (University of the Thai Chamber of Commerce)

สถาบันการศึกษาชั้นนำด้านธุรกิจในเอเชีย ที่ทุกคนก็ปฏิเสธไม่ได้สำหรับมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับเทียบเท่ากับมหาวิทยาลัยของรัฐบาลเลยทีเดียว และยังเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยเอกชนที่ได้รับการรันตีว่า นักศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยหอการค้ามีอัตราในการจ้างงานที่ค่อนข้างสูง โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีประวัติการก่อตั้งที่ยาวนาน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2483 ใช้ชื่อ “วิทยาลัยการค้า” จนได้ย้ายมาอยู่ในสังกัดของทบวงมหาวิทยาลัย และได้เปลี่ยนเป็นมหาวิทยาลัยในชื่อใหม่ว่า “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย” (The University of the Thai Chamber Commerce) อักษรย่อ มกค. หรือ UTCC โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ติดอยู่ในอันดับที่ 32 ของไทย และอันดับที่ 2760 ของโลก

อันดับที่ 3 : มหาวิทยาลัยกรุงเทพ (Bangkok University)

มาถึงอันดับ 3 “มหาวิทยาลัยกรุงเทพ” อยู่ในอันดับที่ 31 ของประเทศไทย และอันดับที่ 2604 ของโลก เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ อยู่ภายใต้การสนับสนุนของ “มูลนิธิมหาวิทยาลัยกรุงเทพ” โดยได้เปิดดำเนินการสอนตั้งแต่ พ.ศ. 2505 ปัจจุบันได้พัฒนาขึ้นมาเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนแถวหน้าของประเทศไทยได้สำเร็จ จากการพัฒนาหลักสูตร และได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาใช้ในการเรียนการสอน เปิดทำการสอนใน 2 วิทยาเขตคือ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท และวิทยาเขตรังสิต ตั้งแต่หลักสูตรปริญญาตรี-เอก, International Program และหลักสูตรสองภาษา มาให้นักศึกษาได้เลือกกัน

อันดับที่ 2 : มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร (Mahanakorn University of Technology)

“มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร” (มทม.) หรือ “Mahanakorn University of Technology” (MUT) แต่เดิมจัดตั้งขึ้นโดยใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยมหานคร” ในปี พ.ศ. 2533 เนื่องจากช่วงนั้นเป็นยุคที่ประเทศไทยขาดแคลนวิศวกร โดยเปิดดำเนินการสอนเพียงหนึ่งคณะวิชา คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ต่อมาได้รับการอนุญาตให้เปลี่ยนประเภทเป็นมหาวิทยาลัยในวันที่ 30 มีนาคม 2535 ในนาม “มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร” นับเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่ได้รับการเปลี่ยนประเภทเป็นมหาวิทยาลัยเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยเวลาเพียง 4 ปี ปัจจุบันมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครเปิดดาเนินการสอน คณะวิศวกรรมศาสตร์, คณะสัตวแพทยศาสตร์, คณะวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศ และคณะบริหารธุรกิจ แต่ก็ยังคงชื่อเสียงในในการผลิตบัณฑิตคุณภาพด้านวิศวกรรมเสมอมา จนถึงปัจจุบัน โดยในปีนี้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ติดอยู่ในอันดับที่ 24 ของประเทศ และอันดับที่ 2256 ของโลก

อันดับ 1 ในปีนี้เป็นของ “มหาวิทยาลัยรังสิต”

มหาวิทยาลัยเอกชนชั้นนำของประเทศไทย จากเว็บโอเมตริกซ์ว่าเป็นมหาวิทยาลัยอิเล็กทรอนิกส์ที่ดีที่สุดในเมืองไทย อันดับที่ 20 และอันดับที่ 2114 ของโลก ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2528 มหาวิทยาลัยเอกชนที่มีศาสตราจารย์มากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ นอกจากนี้มหาวิทยาลัยรังสิตยังมีชื่อเสียงในด้านวิชาการที่ทันสมัยหลายหลักสูตรด้วยกัน ทั้งแพทย์ ทันตแพทย์ เภสัช และพยาบาล นอกจากนี้มหาวิทยาลัยรังสิตยังมีชื่อเสียงในเรื่องของศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันที่เป็นศิลปินดาราศึกษาอยู่เป็นจำนวนมากตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

อ้างอิง : webometrics, manager, toptenthailand

สำนักข่าววิหคนิวส์