วันนี้ เวลา 8.00 น.ที่วัดคลองปลัดเปรียง ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองบางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ได้รวมตัวกันกว่า 100 คนเพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ขอให้ช่วยตรวจสอบว่ามีกระบวนการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดี กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ให้ใบแดงทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองบางแก้ว และมีการยื่นให้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ไต่สวน แต่ทว่ากลับมีเสียงลือกันให้แซดในพื้นที่ว่า มีการเคลียร์คดีกันจบแล้วนั้น เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ทั้งนี้ เรื่องดังกล่าวทำให้ชาวตำบลบางแก้วรู้สึกไม่สบายใจ เมื่อได้รับทราบข่าวหนาหูอย่างมากว่า มีการวิ่งเต้นเพื่อล้มคดีในศาลอุทธรณ์ กรณีทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองบางแก้วทั้ง 19 คนที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อ 28 มี.ค.64 แต่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ให้ใบแดงทั้งหมด เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่ากระทำการฝ่าฝืนข้อห้ามตาม ม.65(5) ของ พรบ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่น 2562 คือ หลอกลวง หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครใด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ซึ่ง กกต.ได้วินิจฉัยเมื่อ 13 ธ.ค.64 ว่าเข้าข่ายฝ่าฝืนจริงเพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน จึงมีคำสั่งให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้ถูกร้องทั้ง 19 คน เมื่อ 18 เม.ย.65 และให้ดำเนินคดีอาญาต่อผู้ถูกร้องทั้งหมดและให้ร่วมกันรับผิดชอบในค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งด้วย
ขณะนี้ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้ทำการไต่สวนทั้งพยานฝ่าย กกต.และพยานฝ่ายผู้คัดค้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้นัดให้มาฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ก.ย.65 นี้ แต่กลับมีเสียงล่ำลือแพร่สะพัดในพื้นที่ว่า ศาลอุทธรณ์จะยกคำร้องดังกล่าว เพราะมีมือดีได้เคลียร์คดีดังกล่าวกับศาลเรียบร้อยแล้ว และทีมผู้บริหารเทศบาลเมืองที่ถูกสั่งหยุดการปฏิบัติหน้าที่จะกลับมาบริหารงานดังเดิม โดยข้าราชการในเทศบาลได้รับโทรศัพท์จากทีมงานของสมาชิกเทศบาลบางท่านว่าให้เตรียมป้ายต้อนรับทีมงานของเขาและเตรียมออกหนังสือเรียกประชุมสมาชิกสภาเทศบาลโดยทันทีด้วย ทำให้ข้าราชการและชาวบ้านในตำบลบางแก้วเกิดความวิตกกังวลและสงสัยในกระบวนการยุติธรรมว่า มีการกระทำเช่นนี้ได้ด้วยหรือ จึงรวมตัวกันร้องเรียนให้คุณศรีสุวรรณช่วยตรวจสอบในวันนี้
ด้านนายศรีสุวรรณ เมื่อได้รับคำร้องจากชาวบ้านแล้วได้กล่าวกับชาวบ้านว่า จะนำเรื่องดังกล่าวมาพิจารณาก่อนยื่นให้ผู้บริหารในศาลอุทธรณ์และคณะกรรมการตุลาการ หรือ ก.ต. ได้ตรวจสอบ และอาจต้องยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช. ตรวจสอบอีกชั้นหนึ่งด้วย ตามความประสงค์ของชาวบ้าน เพราะโดยส่วนตัวไม่เชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมในศาลอุทธรณ์จะปล่อยให้มีกรณีเยี่ยงนี้เกิดขึ้น เพราะผู้พิพากษาแต่ละท่านล้วนเป็นผู้มีเกียรติคงไม่ทำเรื่องให้ถูกจับผิดจนถูกปลดได้ง่ายๆ ขอให้ชาวบ้านมีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของประเทศเรา เพราะศาลยังเป็นที่พึ่งของประชาชน นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด