ข่าวประจำวัน » #“จุรินทร์” มองการเมืองไทยยังอึมครึม

#“จุรินทร์” มองการเมืองไทยยังอึมครึม

24 December 2017
495   0

“จุรินทร์” มองการเมืองไทยยังอึมครึม ชี้คำสั่งคสช.53/2560 เปรียบฆ่าตัดตอนสมาชิกพรรค ขณะที่ “ชวลิต” ลั่นเลือกตั้งไทยปีหน้าแปลกสุดในโลก เหตุรบ.ใช้ม.44 คุม ด้าน “สมชัย” ระบุประกาศคสช.ทำเลือกตั้งไม่ทัน พ.ย.61 ขณะที่ “ปริญญา” เผยคำสั่ง 53/2560 เป็นการเซ็ตซีโร่ส.ส.เก่าของพรรคไปในตัว ห่วงหากตั้งพรรคใหม่ผลเสียตกที่คสช.

สยามรัฐ-เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 24 ธ.ค. 60 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการญาติวีรชน พฤษภา 35 ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคเอกชน จัดเสวนาโต๊ะกลมสาธารณะ ครั้งที่ 2/1 ในหัวข้อบ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอน “รัฐธรรมนูญ-การเลือกตั้ง ครั้งแรกสู่ประชาธิปไตย”

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า หลายเดือนที่ผ่านมาได้รับคำถามมาตลอดว่าจะมีการเลือกตั้งหรือไม่และจะมีขึ้นเมื่อไหร่ ซึ่งส่วนตัวตอบได้แค่ว่ามีการเลือกตั้งแน่นอน เพราะประเทศไทยเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่ยังตอบไม่ได้ว่าจะมีขึ้นเมื่อไหร่ เพราะเป็นช่วงเวลาอึมครึมแม้ว่าจะบังคับใช้รัฐธรรมนูญ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 หรือแม้แต่การดำเนินการร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. แต่นาทีก็ยังอึมครึมอยู่ โดยคนส่วนใหญ่เชื่อว่าไม่มีอะไรแน่นอน โดยมีสาเหตุจากความไม่นิ่งของแม่น้ำสายต่างๆ ดังจะเห็นได้จากการเคยคว่ำร่างรัฐธรรมนูญ หรือการแก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองด้วยมาตรา 44ทั้งที่เพิ่งบังคับใช้ได้ไม่นาน จะเห็นได้ว่าทุกอย่างยังไม่มีความชัดเจน

นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นจริง การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นนั้นจะต้องเป็นการเลือกตั้งภายใต้บริบทประชาธิปไตยครึ่งใบ ซึ่งมันชี้ให้เห็นโดยรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว หรือการเกิดขึ้นภายใต้การกำกับของคสช.ภายใต้มาตรา 44 ที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญ เพราะคสช.ยังอยู่ในตำแหน่งต่อไปจนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ และจะเกิดขึ้นที่เป็นการแข่งขันระหว่างพรรคการเมืองเดิมและพรรคการเมืองใหม่

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ทั้งนี้ มีสัญญาณเกี่ยวกับพรรคการเมืองใหม่ที่เป็นทางการ 53/2560 ที่อ้างว่าต้องการให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างพรรคการเมืองที่จะเกิดขึ้นใหม่กับพรรคการเมืองเดิม โดยมีรายละเอียดให้สมาชิกพรรคการเมืองเดิมต้องมีภาระในการทำเป็นหนังสือและจ่ายค่าสมาชิกเพื่อยืนยันความเป็นสมาชิกและคุณสมบัติตามกฎหมายในการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของตัวเอง อันจะเป็นภาระของสมาชิกพรรคการเมือง เสมือนเป็นการฆ่าตัดตอนสมาชิกพรรคการเมืองทุกพรรคการเมือง

“ส่วนตัวสงสัยว่าประชาชนจะได้อะไรจากคำสั่งนี้ ทั้งที่เขาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอยู่แล้ว หากนายกฯ ต้องการจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในเรื่องประชาธิปไตยจริงอย่างที่บอก ก็ควรดำเนินการให้สอดคล้องต้องกันด้วย เพราะการมีสมาชิกพรรคการเมืองมีความสำคัญต่อการให้พรรคการเมืองเดินหน้าเป็นสถาบันทางการเมืองโดยต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรคการเมืองเข้ามามีส่วนร่วม” นายจุรินทร์ กล่าว

นายจุรินทร์ กล่าวว่า การเป็นนายกฯ คนนอกไม่จำเป็นต้องพรรคการเมืองเองก็ได้ เพราะเวลานี้มีกลุ่มคนคอยสนับสนุนอยู่แล้ว อีกทั้งเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญก็เอื้อให้เกิดการนายกฯ คนนอกได้เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากการให้ส.ว.สามารถลงมติเลือกนายกฯได้ด้วย ซึ่งสะดวกกว่าการตั้งพรรคการเมืองและต้องไปหาเสียงเอง โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะมีผลออกมาเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม ระหว่างทางก่อนจะถึงการเลือกตั้ง รัฐบาลมีภารกิจที่สำคัญ 3 ประการ คือ 1.ต้องไม่ทุจริต เพราะถ้าทุจริตจะไม่ต่างกับอะไรกับรัฐบาลก่อนหน้านี้ 2.ต้องเร่งดำเนินการปฏิรูปให้เป็นรูปธรรม เพราะการปฏิรูปเป็นข้ออ้างของการรัฐประหาร หรือ อยากเห็นรัฐบาลแถลงผลงานการปฏิรูปด้วย เพื่อให้ทุกอย่างกระจ่างขึ้น และ 3.เร่งแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนและราคาพืชผลทางการเกษตรทุกชนิด

นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีการใช้มาตรา 44 เพื่อออกคำสั่งแก้ไขพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองพ.ศ.2560 ส่วนตัวมองว่าประเทศขาดความเชื่อมั่นจากการดำเนินการของรัฐบาล โดยรัฐบาลฝืนความจริง 4 ประการ

1.ฝืนกฎหมาย เพราะรัฐบาลได้ออกกฎหมายพรรคการเมือง นายกฯลงนามรับสนองพระบรมราชโองการประกาศใช้กฎหมายตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.2560 แต่กลับมีคำสั่งเหนือรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติ การดำเนินการเช่นนี้ เห็นว่าขัดต่อหลักนิติธรรมอย่างร้ายแรง และกระทบความเชื่อมั่นของประเทศไปเรื่อยๆ

2.ฝืนโลก ก่อนหน้านี้อียูมีหนังสือมาถึงรัฐบาลหลายเรื่อง โดยหนึ่งในนั้น คือ การเปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายทำกิจกรรมทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง แต่รัฐบาลกลับดำเนินการในทางตรงกันข้าม

3.ฝืนประชาชน สมาชิกพรรคการเมืองหลายพรรคน่าจะมีประมาณ 5 ล้านคน เขาทำความผิดอะไร เคยใช้สิทธิเลือกตั้ง การมีคำสั่งดังกล่าวเท่ากับเป็นการรอนสิทธิของสมาชิกพรรค จึงไม่ต่างอะไรกับการรีเซตสมาชิกพรรคการเมืองแบบซ่อนรูป ไม่เป็นธรรมต่อประชาชน การมีตัวเลข 5 ล้านคน ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ยังไม่นับประชาชนอีก 65 ล้านคนที่กำลังจับตาดูอยู่ คำสั่งคสช.ดังกล่าวยังเป็นการดูถูกประชาชน เพราะมีการระบุว่าประชาชนอาจถูกแรงจูงใจทางการเมืองในการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรค ไม่ได้มองในสิ่งประชาชนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคการเมืองโดยบริสุทธิ์ใจ

4.ฝืนตัวเอง ปัจจุบัน ประเทศไทยอยู่ลำดับสุดท้ายของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำผลสำรวจครั้งใดก็จะพบว่ายังไม่ พอใจกับการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ

นายชวลิต กล่าวอีกว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นการเลือกตั้งที่แปลกที่สุดในโลก เพราะมีมาตรา 44 คุมอยู่ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเลือกตั้ง ไม่ต่างอะไรกับการทำประชามติที่มีมาตรา 44 กำกับอยู่ ทุกอย่างถูกจัดวางมาเป็นระบบ โดยเฉพาะเวลามีการใช้งบประมาณแผ่นดินหาเสียงผ่านการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องร่วมกันมองหาทางออกและเสนอไปยังรัฐบาล โดยต้องควรสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศ ให้ประเทศเดินไปตามกฎหมายปกติและเดินตามโรดแมป การเลือกตั้งสำคัญที่สุดที่จะต้องเป็นกลางเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของต่างประเทศ

ด้าน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คำสั่งของคสช.หลายเรื่อง จะมีผลให้การเลือกตั้งไม่สามารถเกิดได้ทันในเดือนพ.ย.2561 เพราะมีการประกาศให้เริ่มทำตามกฎหมายภายใน 180 วันตั้งแต่เดือนเม.ย. ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนต.ค.เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทันกับการเลือกตั้งเดือนพ.ย.2561 เพราะก่อนการเลือกตั้งควรต้องให้ทุกอย่างนิ่งล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน

นายสมชัย กล่าวว่า ส่วนตัวเห็นว่าประเด็นสำคัญของคำสั่งคสช.ดังกล่าวอยู่ที่ข้อที่8 ที่บัญญัติให้คสช.หารือกับกกต. คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผู้แทนพรรคการเมืองหรือกลุ่มการเมืองเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ตรงนี้ส่วนตัวคิดว่าจะทำให้เกิดพรรคการเมืองเล็กเสียงจำนวนมากที่บอกว่าไม่สามารถลงเลือกตั้งได้ทัน และนำไปสู่การลงมติเพื่อขอให้เลื่อนการออกไปในที่สุด จึงอยากฝากพรรคการเมืองใหญ่ไว้ด้วยว่าต้องยืนยันให้หนักแน่นว่าสามารถทำตามกติกาเพื่อให้ทันกับการเลือกตั้งได้

“การรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้กระทบต่อพรรคการเมืองใหญ่เท่าไหร่นัก เพราะการเป็นสมาชิกพรรคการเมืองของไทยไม่ได้เหมือนกับต่างประเทศ โดยสมาชิกพรรคการเมืองในต่างประเทศจะมีความจงรักภักดีต่อพรรคอย่างแท้จริง แต่ของไทยเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น เพราะถ้าไม่เป็นแค่ตัวเลข ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ถึงแพ้พรรคเพื่อไทย หรือ ทำไมพรรคมหาชนที่มีสมาชิกประมาณล้านคนแต่กลับไม่ได้สส.แม้แต่คนเดียว วิธีการทำให้พรรคการเมืองดำเนินการได้ คือ ไม่ต้องมีสมาชิกพรรค แค่ 2-3 หมื่นคนก็พอ เพราะตามกฎหมายใหม่ ถ้ายิ่งมีสมาชิกพรรคจำนวนมากยิ่งทำให้เกิดขั้นตอนทางธุรการเป็นจำนวนมากของพรรคการเมืองดังนั้น ส่วนตัวเห็นว่าพรรคการเมืองใหญ่ควรต้องขอบคุณคสช.ด้วยซ้ำไป” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับเวลานี้ประเทศไทยมีกลุ่มคนด้วย 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่ 1 กลุ่มผู้มีอำนาจ โดยไม่รู้ใจตัวเองว่าต้องการอะไรกันแน่ เพราะวันหนึ่งก็คว่ำร่างรัฐธรรมนูญของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ หรือ การเลือกตั้งท้องถิ่นที่ไม่มีความพร้อม เพราะเดิมไม่ได้เตรียมตัวเอาไว้ ดังจะเห็นได้จากการที่รัฐบาลออกมาบอกว่าไม่สามารถเสนอกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นได้ทันภายในปีนี้ กลุ่มที่ 2 คนจัดทำร่างกฎหมาย โดยเฉพาะคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญที่พยายามเอาใจกลุ่มผู้มีอำนาจ แต่ทำตามใจไม่ทัน เพราะกลุ่มผู้มีอำนาจเปลี่ยนใจไปเรื่อยๆ กลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ต้องตีความกฎหมาย ภาพของประเทศตอนนี้ คือ ทุกคนจะตีความเคร่งครัด ไม่ยอมทำอะไรให้เป็นปัญหา และ กลุ่มที่ 4 ประชาชนที่ต้องรับผลทางกฎหมาย ซึ่งเวลานี้ทุกฝ่ายกำลังมึนงง เพราะไม่เคยได้รับเหตุผลที่เป็นมาตรฐานเดียวกันของผู้มีอำนาจ

“อย่างเช่นการเซ็ตซีโร่บางองค์กร และไม่เซ็ตซีโร่บางองค์กร โดยไม่มีเหตุผลที่แน่นอน เมื่อใดก็ตามที่ประชาชนไม่สามารถเชื่อและหาเหตุผลที่เป็นเหตุผลได้จะทำให้ประชาชนไปหาและเชื่อเหตุผลที่ไม่เป็นเหตุผล หมายความว่า รัฐบาลจะขาดความเชื่อถือและขาดการยอมรับ การเลือกตั้งจะให้จัดได้ดีแค่ไหน หากประชาชนคิดว่าเป็นการเอาเปรียบตั้งแต่ต้นก็จะเป็นปัญหา ดังนั้น เวลานี้รัฐบาลต้องนิ่งและทำในสิ่งควรทำและไม่ทำในสิ่งที่ไม่ควรทำ และไปกำหนดกรอบเวลาในการดำเนินการให้แน่นอน” นายสมชัย กล่าว

นายสมชัย กล่าวว่า สำหรับทางออกที่ดีที่สุดของพรรคการเมืองในเวลานี้ คือ ไม่จำเป็นต้องมีสมาชิกพรรคการเมืองมากเกินไป โดยอาจจะมีประมาณ 1 หมื่นคนน่าจะเพียงพอ แต่ควรเน้นและให้ความสำคัญกับการจัดทำนโยบายและการหาเสียงเลือกตั้งแทน

ขณะที่ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า กฎหมายพรรคการเมืองเดิมกำหนดให้สมาชิกพรรคการเมืองยังคงเป็นสมาชิกพรรคการเมืองต่อไป แต่กฎหมายพรรคการเมืองกำหนดให้ต้องมายืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาตามมามาก ยิ่งพรรคการเมืองไหนมีสมาชิกพรรคการเมืองมากจะนำมาซึ่งปัญหาที่มากตามมาด้วย แต่ที่หนักกว่านั้น คือ การยืนยันสถานะของบุคคลในการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพราะกฎหมายกำหนดให้ต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือยืนยันชัดเจน เช่น การไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรือ การไม่เป็นบุคคลที่ต้องโทษคดียาเสพติด เป็นต้น

นายปริญญา กล่าวว่า ด้วยเหตุนี้จะเป็นปัญหาให้กับพรรคการเมืองใหญ่ที่มีสมาชิกพรรคการเมืองเป็นหลักแสนหรือหลักล้าน เพราะหากพรรคการเมืองดังกล่าวมีหลักฐานยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคการเมืองแค่หนึ่งหมื่นหรือสองหมื่นคน จะนำมาซึ่งข้อครหาว่าแล้วสมาชิกพรรคการเมืองของตนในส่วนที่เหลือจะมีอยู่จริงหรือไม่ และทำไมถึงดำเนินการยืนยันสถานะของสมาชิกพรรคการเมืองเพียงแค่จำนวนดังกล่าวเท่านั้น

นายปริญญา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน คำสั่งของคสช.ดังกล่าวยังเป็นการเซ็ตซีโร่ส.ส.เก่าของพรรคการเมืองไปในตัว หากอดีตส.ส.พรรคการเมืองใดไม่ต้องการอยู่กับพรรคการเมืองเดิม ก็สามารถทำได้โดยการไม่ยืนยันสถานะความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดยไม่จำเป็นต้องยื่นใบลาออก เหมือนกับเป็นการล้างไพ่ทั้งหมด เพราะการตัดสินใจย้ายพรรคของส.ส.จะอยู่บนความคิดที่ว่าพรรคการเมืองไหนสนับสนุนคสช.ก็อาจไปอยู่กับพรรคการเมืองดังกล่าว ซึ่งมีผลให้เกิดแบ่งข้างขึ้นมาว่า ส.ส.ที่จะยกมือให้คสช.มาอยู่ พรรคนี้ และส.ส.ที่จะไม่ยกมือให้คสช. ไปอยู่พรรคนี้

“ถ้าไม่มีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ก็แล้วไปแต่ถ้ามีการตั้งพรรคการเมืองใหม่หรือมีพรรคการเมืองที่ประกาศสนับสนุนให้คสช.เป็นรัฐบาล ผลเสียจะตกกับคสช.เอง ไม่ได้เป็นผลดีต่อคสช. อันตรายต่อการเมืองระยะเปลี่ยนผ่าน ในเรื่องนี้ส่วนตัวมีความเป็นห่วงอย่างมาก” นายปริญญา กล่าว

สำนักข่าววิหคนิวส์