เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #จับผู้อยู่เบื้องหลัง ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ขณะจะหนีออกด่านกัมพูชา

#จับผู้อยู่เบื้องหลัง ! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ขณะจะหนีออกด่านกัมพูชา

27 August 2022
359   0

    จากกรณีตำรวจ PCT ชุดที่ 5 สนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการพิเศษ บูรพา 491 เปิดปฏิบัติการตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ประเทศกัมพูชา โดยปฏิบัติการเชิงรุก ให้เจ้าพนักงานตำรวจอำพรางตัวเป็นสายลับ สมัครไปเป็นพนักงานคอลเซ็นเตอร์ เพื่อรู้วิธีกระทำความผิด เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2565 และจากการขยายผลขบวนการดังกล่าว พบพยานหลักฐานความเชื่อมโยงซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 ได้รวบรวมพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ออกหมายจับไว้รวม 58 ราย

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร (PCT) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 / หน.ชป.5 ศปอส.ตร. (PCT 5) เฝ้าสืบสวนติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่เหลือ เพื่อเร่งตัดวงจรคนไทยข้ามแดนไปทำงาน “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” ที่ประเทศกัมพูชา

ต่อมาวันที่ 26 สิงหาคม เวลาประมาณ 17.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ชุดที่ 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้วได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวเจนนิสา นาเมืองจันท์  อายุ 23 ปี  สัญชาติไทย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.422 / 2565 ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2565

โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ร่วมกันเป็นซ่องโจรร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่จะน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน”

เป็น 1 ใน 58 หมายจับที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการได้ออกไว้

โดยชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และไม่ให้การใดที่เป็นประโยชน์ต่อการขยายผล แต่จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหารายนี้กำลังจะเดินทางกลับไปทำงานพนักงานคอลเซ็นเตอร์ที่ตึกประตูดำ ประเทศกัมพูชา โดยผู้ต้องหาเป็นชุดทำงานหลังบ้าน ซึ่งทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลของเหยื่อ และเป็นแฟนกับ คนสนิทของบอสชาวจีน หัวหน้าแก็งคอลเซ็นเตอร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้ออกหมายจับไว้ และสามารถยืนยันได้ว่า สาวชื่อยีนส์ขณะนี้ทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ที่ตึกประตูดำ หน้าวัดตราด ตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลไว้ก่อนหน้านี้ ร่วมกับบุคคลที่มีหมายจับอื่นตามข้อมูลที่ผู้ต้องหาติดต่อกับยีนส์  ผ่านทางข้อความทางเฟซบุ๊ก จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนท้องที่รับผิดชอบ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ระบาดหนักและมีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หลากหลายรูปแบบ สิ่งที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือการให้วัคซีนให้ภูมิคุ้มกันกับประชาชน เราต้องช่วยกันสื่อสารให้ถึงคนไทยทุกคน ให้พร้อมรับมือกับกลยุทธ์ใหม่ๆ ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเดินหน้าปฏิบัติการตัดวงจรขบวนการส่งคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง ตามนโยบายของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.

“ขอเตือนประชาชนคนไทยที่สมัครไปเป็นพนักงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผมจะเดินหน้าปราบปรามขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างต่อเนื่อง และพวกคุณจะกลับประเทศมาถูกดำเนินคดี มิใช่เหยื่อ ถึงแม้จะไม่ให้ความร่วมมือ ก็สามารถมีหลักฐานเอาผิดถึงที่สุดได้”