ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #จะเล่นปธ.ศาลฏีกา? ! วิโรจน์ อ้างถ่วงดุล กมธ.เชิญศาลมาชี้แจงได้ กรณีไม่ปล่อยแกนนำ112

#จะเล่นปธ.ศาลฏีกา? ! วิโรจน์ อ้างถ่วงดุล กมธ.เชิญศาลมาชี้แจงได้ กรณีไม่ปล่อยแกนนำ112

2 April 2021
555   0

วันนี้ (2 เม.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ระบุว่าคณะกรรมาธิการสามัญ สภาผู้แทนราษฎร ไม่สามารถเชิญประธานศาลฎีกา หรือผู้แทนจากศาลมาหารือได้เลย ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นจริงๆ แล้วอำนาจนิติบัญญัติ จะถ่วงดุลอำนาจตุลาการ ได้อย่างไร แล้วหลักการ 3 อำนาจ อันได้แก่ อำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ นั้นตรวจสอบถ่วงดุลซึ่งกันและกัน จะเกิดขึ้นในทางปฏิบัติได้อย่างไร
.
นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนขออนุญาตแนะนำให้คนที่บอกว่าไม่ได้ให้กลับไปอ่านรัฐธรรมนูญ มาตรา 129 วรรค 4 ให้ดี ๆ ช้า ๆ อีกครั้ง ไม่ใช่แค่ยกเอามาตรา 129 มาอ้างดื้อ ๆ แล้วก็บอกว่าเชิญไม่ได้ โดยมาตรา 129 วรรค 4 ระบุเอาไว้ ดังนี้ “คณะกรรมาธิการตามวรรคหนึ่งมีอำนาจเรียกเอกสารจากบุคคลใด หรือเรียกบุคคลใดมาแถลงข้อเท็จจริง หรือแสดงความเห็นในกิจการที่กระทำหรือในเรื่องที่พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาอยู่นั้นได้ แต่การเรียกเช่นว่านั้นมิให้ใช้บังคับแก่ผู้พิพากษาหรือตุลาการ
.
ที่ปฏิบัติตามหน้าที่ หรือใช้อำนาจในกระบวนวิธีพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือการบริหารงานบุคคลของแต่ละศาล และมิให้ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระในส่วนที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตามหน้าที่ และอำนาจโดยตรงในแต่ละองค์กรตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ หรือตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ แล้วแต่กรณี
.
โดยการเชิญประธานศาลฎีกา มาเพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีที่มีบุคคลกล่าวอ้างว่า “มีบุคคลภายนอกบังอาจมาสั่งศาล” นั้นมีข้อเท็จจริงเป็นประการใด รวมทั้งอาจจะมีการพูดคุยถึงการแสดงออกถึงสิทธิ และเสรีภาพทางการเมือง ตามรัฐธรรมนูญ ของท่านในอดีต
.
นอกจากนี้ นายวิโรจน์ ได้กล่าวต่อว่า สำหรับ 2 ประเด็นดังกล่าวข้างต้น ไม่ได้เป็นการแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่ในการพิจารณาอรรถคดี แต่อย่างใด และไม่ได้เป็นการเข้าไปก้าวก่ายการบริหารงานบุคคลใด ๆ ของศาล แต่เป็นการสอบถาม ถึงประเด็นที่กระทบกับภาพลักษณ์ของอำนาจตุลาการด้วยความห่วงใย ตลอดจนสอบถามถึงแนวทางในการรับมือต่อกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น ด้วยความปรารถนาดี ที่จะช่วยธำรงความน่าเชื่อถือของสถาบันตุลาการ
.
เหตุใดจะทำไม่ได้ กระบวนการเหล่านี้ คือ กระบวนการถ่วงดุล ระหว่างอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ ที่ชอบธรรม ตามระบอบประชาธิปไตย ที่สามารถทำได้อย่างสง่างาม และต้องทำด้วย และยืนยันว่าตราบใดที่ไม่ได้แทรกแซง การพิจารณาอรรถคดีของผู้พิพากษา ไม่ได้ไปก้าวก่ายการแต่งตั้งโยกย้าย หรืองานบุคคลใด ๆ คณะกรรมาธิการสามารถเชิญประธานศาลฎีกา ในฐานะประมุขฝ่ายตุลาการมาชี้เเจงได้