ข่าวประจำวัน » อาชญากรรม » #คำพิพากษาหรือคำสั่ง คดีจ่าโอ๋ศาลไม่รับฟ้อง ให้จำหน่ายคดี

#คำพิพากษาหรือคำสั่ง คดีจ่าโอ๋ศาลไม่รับฟ้อง ให้จำหน่ายคดี

24 April 2018
1346   0

ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ศาลเห็นว่า การกระทำของเจ้าพนักงานที่จะเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และ 157 นั้นต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งของเจ้าพนักงานนั้นเองโดยมิชอบ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติสิ่งซึ่งอยู่ในหน้าที่ของเจ้าพนักงานนั้นเองโดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือโดยทุจริต ตามคำฟ้องโจทก์ ฟังได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานตำรวจตำแหน่งสารวัตรสืบสวน ประจำสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน ซึ่งอำนาจหน้าที่ของจำเลยทั้งสอง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ก็คือ การเป็นเจ้าพนักงานซึ่งมีอำนาจหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนอันเกี่ยวกับการจับกุมปราบปรามผู้กระทำความผิดกฎหมาย ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องจับกุมหรือปราบปรามและเกี่ยวกับการสืบสวนนั้น

หมายถึงการแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐานซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจได้ปฏิบัติไปตามอำนาจหน้าที่ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน และเพื่อจะทราบรายละเอียดแห่งความผิด การตั้งด่านตรวจและการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์กับพวกซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตำรวจชั้นประทวน ของสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน แม้อยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของจำเลยทั้งสองซึ่งก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับการปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญา แต่การที่โจทก์กับพวกจะได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยเลี้ยงจากการปฏิบัติหน้าที่ ก็เป็นกรณีที่ทางราชการได้วางระเบียบหรือหลักเกณฑ์ไว้ในทางบริหารต่างหาก และตามเอกสารท้ายฟ้องโจทก์หมายเลข 6 ก็ระบุว่าสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธินยังต้องส่งหลักฐานการขอเบิกเบี้ยเลี้ยงดังกล่าว

ต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปเพื่อพิจารณาอนุมัติ กับทั้งตามฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินค่าเบี้ยเลี้ยงให้แก่โจทก์กับพวก ที่จะถือได้ว่าจำเลยทั้งสองเป็นเจ้าพนักงานมีอำนาจที่จะออกคำสั่งหักเงินเบี้ยเลี้ยงของโจทก์กับพวก หรือข่มขู่บังคับโจ๊กกับพวกให้นำเงินเบี้ยเลี้ยงส่วนเกินมามอบให้จำเลยทั้งสอง ที่จะถือได้ว่าเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งของจำเลยทั้งสองโดยมิชอบ และปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติสิ่งซึ่งอยู่ในหน้าที่ของจำเลยทั้งสองนั้นเองโดยมิชอบ การกระทำของจำเลยทั้งสองจึงไม่อาจเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 จึงไม่ใช่คดีทุจริตและประพฤติมิชอบตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ มาตรา 3 ที่จะรับไว้พิจารณาพิพากษาได้ จึงมีคำสั่งไม่รับฟ้องของโจทก์ไว้พิจารณาให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

รายละเอียดอื่นทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ จะแถลงข่าวในภายหลัง เนื่องจากติดบรรยายให้สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย ที่จ.อุบลราชธานี

สำนักข่าววิหคนิวส์