ข่าวประจำวัน » ข่าวเด่น » #คสช.แลกหมัด ชูม.44ตอกนักการเมืองอย่าอ้างยุ่งยาก

#คสช.แลกหมัด ชูม.44ตอกนักการเมืองอย่าอ้างยุ่งยาก

25 December 2017
596   0

คสช.ออกโรงแจงคำสั่งม.44 แบ่งเป็น 4 ห้วงระยะเวลาผ่อนคลายให้พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ก่อนปลดล็อกใหญ่ 1 เมษาฯปีหน้า ยันเจตนาดีให้ปชช.มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงและโปร่งใส นักการเมืองน่าจะยอมรับได้อย่ามาอ้างความยุ่งยาก ขณะที่ปชป.อัดยับไม่ถูกต้องชอบธรรมขู่ยื่นศาลรธน.ตีความปกป้องสิทธิสมาชิกพรรค2.8ล้านคน แฉยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัวหวังปูทางสืบทอดอำนาจ ด้านพท.อัดซ้ำเริ่มกวาดต้อนนักการเมืองเข้าคอกแล้ว

แนวหน้า – 24 ธ.ค.60 พล.ต.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี คสช.มีคำสั่งที่ 53/2560 เรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.60 ว่า สาระสำคัญของคำสั่งดังกล่าวระบุถึงการผ่อนคลายการดำเนินกิจกรรมให้พรรคการเมืองทั้งพรรคเดิมและพรรคที่จะจัดตั้งใหม่ แบ่งเป็น 4 ห้วงระยะเวลา คือ

เปิด4ห้วงระยะเวลาคลายล็อก

(1.) ตั้งแต่วันที่ออกคำสั่งฉบับนี้ถึงวันที่ 1 มี.ค.61 (2.) ตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.61 ถึงวันที่ 1 เม.ย.61 (3.) ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.61 จะเป็นการปลดล็อกใหญ่ และ (4.) การปลดล็อก ด้วยการยกเลิกคำสั่งและประกาศ คสช.ฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อการเลือกตั้งโดยเสรี

ตอกนักการเมืองอย่าอ้างยุ่งยาก

“คสช.มีเจตนาเพื่อให้ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีส่วนร่วม ในกระบวนการอย่างแท้จริง ทั้งในการแสดงตัวตน แสดงการบริจาคเงินให้ชัดเจน เนื่องจากที่ผ่านมาประชาชนส่วนหนึ่งก็ไม่ได้บริจาคเงิน ไม่ได้แสดงตนด้วยตัวเอง ในเมื่อนักการเมืองต้องการจะช่วยปฏิรูปประชาธิปไตยทำให้เกิดความโปร่งใสจริง ก็น่าจะยอมรับได้ หากอ้างว่าทำให้เกิดความยุ่งยาก อาจจะทำให้ สังคมผิดหวัง” พล.ต.ปิยพงศ์ กล่าว

ประเมินรอบด้านเหมาะสมแล้ว

และว่าก่อนที่จะมีคำสั่งนี้ คสช.ได้รับคำร้อง การให้ความเห็น การเสนอแนวทางที่เหมาะสมและเป็นไปได้ การพิจารณาข้อกฎหมาย และผลกระทบต่างๆ รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ และการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ รวมทั้งนโยบายต่างๆ อย่างรอบด้าน ควบคู่ไปกับ โรดแมปที่นำไปสู่การเลือกตั้ง จึงจำเป็นต้องกำหนด เงื่อนไขเวลา ขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อม และสถานการณ์ ความมั่นคงของประเทศ ให้เกิดเสถียรภาพมากที่สุด จึงจำเป็นต้องออกคำสั่งดังกล่าว

แก้ตรงจุดรอปลดล็อกครั้งใหญ่

ขณะที่ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันที่ คสช.ประชุมพิจารณาเกี่ยวกับการออกคำสั่งดังกล่าว ได้มีการสอบถามกันว่าวิธีนี้จะสามารถแก้ปัญหาของพรรคการเมืองได้ตรงจุดหรือไม่ ซึ่งที่ประชุมได้คำตอบที่เป็นหลักการตรงกันว่าพรรคการเมืองเก่าและกลุ่มการเมืองที่กำลังจะจดทะเบียนตั้งพรรคการเมืองนั้นสามารถทำกิจกรรมบางเรื่องได้ไปพลางก่อนสำหรับการเตรียมตัวเมื่อถึงการปลดล็อกครั้งใหญ่ เขาจะได้ดำเนินการต่างๆ ทันท่วงที

วัดใจสมาชิกพรรค-แก้พวกล่าลายเซ็น

“ที่สำคัญคือจะทำให้พรรคการเมืองเก่าและพรรคที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นใหม่มีความเหลื่อมล้ำหรือเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบกันน้อยที่สุดหรือไม่มีเลย อีกทั้งจะทำให้สมาชิกแต่ละคนได้ยืนยันด้วยการรายงานตัวกับพรรคว่ายังต้องการอยู่พรรคนั้นอยู่หรือไม่ ทำให้สังคมได้เห็นว่าผู้ที่มาเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองนั้นๆ มีความผูกพันกับพรรคอย่างแท้จริง และยังแก้ปัญหาสมาชิกพรรคซ้ำซ้อน ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา บางคนอาจจะถูกล่าลายเซ็นมา เขาว่ากันมานะ” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว

ปชป.ขอลูกพรรคอย่าเสียขวัญม.44

ส่วน นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การใช้อำนาจตาม ม.44 ดังกล่าว ไม่ได้เหนือความคาดหมายในยุคที่การเมืองอยู่ในช่วงไม่ปกติ ประวัติศาสตร์สอนมายาวนาน และประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเดิมเสมอ อย่างไรก็ตาม ตนอยากฝากบอกสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศว่าไม่ต้องขวัญเสีย พรรคฯ ยังมีอุดมการณ์มั่นคง 10 ข้อเหมือนเดิม เรามุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติ รับใช้ประชาชนต่อไป

“พวกเราต้องอดทนและจับมือกันร่วมฝ่าฟันไปให้ได้ ทุกๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมามันคือโอกาสที่จะทำงานให้พรรคฯ เข้มแข็ง ขอให้กำลังใจสมาชิกพรรคทุกคน และมาช่วยกันทำงานเพื่อให้พรรคเข้มแข็งและมีศักยภาพรับใช้ประชาชนได้เต็มที่” นายจุติ กล่าว

ปชป.อัดยับคำสั่งไม่ชอบธรรม

นายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า คำสั่ง คสช.ที่ 53/2560 ดังกล่าวไม่ถูกต้องชอบธรรม และตนต้องปกป้องสิทธิของสมาชิกพรรคการเมือง เนื่องจากคนเหล่านี้เป็นสมาชิกโดยชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเหตุผลที่ะออกคำสั่งตามมาตรา 44 มาสร้างภาระ นำไปสู่การตัดสิทธิการเป็นสมาชิกพรรคการเมือง

ขู่ยื่นตีความปกป้องสิทธิสมาชิกพรรค

“ผมไม่สนใจว่าคำสั่งนี้ออกมาเพื่อช่วยเหลือพรรคที่จะตั้งใหม่ ไม่สนใจว่าใครจะได้เปรียบ เสียเปรียบทางการเมือง ไม่สนใจว่าเป็นการปลดล็อคทางการเมืองหรือขยายเวลา แต่ผมต้องรักษาสิทธิสมาชิกพรรค 2.8 ล้านคน ของพรรคประชาธิปัตย์ ผมได้หารือกับ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ว่าคำสั่งนี้อาจจะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 26 ที่สามารถเสนอเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยได้” นายราเมศ กล่าว

ประมวลชี้แผนเซ็ตซีโร่การเมือง

นายประมวล เอมเปีย อดีต สส.ชลบุรี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า ตนเคยพูดดักทางไว้ไม่ผิดในเรื่องนี้ ว่า การอ้างเหตุผลต่างๆเพื่อรีเซ็ตสมาชิกพรรคการเมืองมันมีนัยยะทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้ช่วงการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันก็มีคนเสนอแนวคิดที่จะเซ็ตซีโร่พรรคการเมืองเดิมที่มีอยู่ก่อนแล้ว แต่กระแสสังคมคัดค้าน เขาจึงสั่งถอยและหันมาใช้ระบบการเลือกตั้งแบบสัดส่วนผสม แต่แนวคิดที่จะสลายพรรคการเมืองเดิมก็ยังคงอยู่

แอบแฝงหวังผลหลังการเลือกตั้ง

“วันนี้สบโอกาสเมื่อมีคนมาร้องขอให้แก้ไขกฎหมายพรรคการเมืองโดยอ้างเหตุต่างๆ ทั้งที่ต้นตอของการทำตามกฎหมายพรรคการเมืองไม่ได้คือคำสั่ง คสช.ที่ 57/2557 ดังนั้น การออกคำสั่งโดยใช้มาตรา 44 ออกเป็นคำสั่งที่ 53/2560 เพื่อคลายล็อคแอบแฝงหวังผลทางการเมืองครั้งนี้ ผมไม่รู้สึกแปลกใจ เพราะคิดไว้แล้วว่า เขาทำแน่เพราะมีธงเดิมอยู่แล้ว” นายประมวล กล่าว

ยิงปืนนัดเดียวได้นก3ตัว

ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ผู้นี้ ยังชี้ว่า งานนี้ถือว่าเข้าเป้าของผู้มีอำนาจที่ยิงปืนนัดเดียวได้นก 3 ตัว คือ 1.สานต่อเป้าหมายเดิมที่บอนไซพรรคการเมืองเดิมโดยทำให้เล็กลง อ่อนแอลงโดยการรีเซตสมาชิกพรรคการเมืองเก่าทุกพรรค 2.นอกจากจะสลายสมาชิกพรรคเก่าแล้ว ก็จะรวมถึงอดีต ส.ส.ของพรรคเก่า ที่กลุ่มทุน ฐานอำนาจใหม่ที่จะก้าวสู่วงการเมืองจะตั้งพรรคใหม่จะได้ตกปลาในอ่างเพื่อน คือการซื้อตัวอดีต ส.ส.ให้ย้ายสังกัดพรรคโดยไร้ข้อครหา เพราะถ้ามีการซื้อตัวก็จะถูกมองว่า ผู้มีอำนาจในยุคปฏิรูปยังใช้การเมืองแบบเก่าโดยดูดอดีต ส.ส.ให้ย้ายพรรค สวนทางการปฏิรูปการเมือง จึงใช้การสั่งรีเซตสมาชิกพรรคเก่าเพราะใครก็ด่าว่าครหาไม่ได้จากคำสั่งนี้

จับตานักการเมืองคนไหนย้ายพรรค

และ 3.เมื่อจะตกปลาในอ่างเพื่อน แต่ยังไม่พร้อม ทั้งด้านการตั้งพรรคใหม่ ตัวผู้สมัคร ฐานเสียง และปัจจัยอื่นก็ต้องยืดเวลาในการจัดการเลือกตั้งออกไปก่อน ทั้งนี้ ขอให้กาลเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า จะมีอดีต ส.ส.คนไหนย้ายพรรค หรือไปตั้งพรรคใหม่ และอาจจะมีผลกระทบต่อโรดแม็ปการเลือกตั้งของรัฐบาลในเดือน พ.ย.61 หรือไม่ อย่างไร

พท.ชี้สร้างสับสน-รีเซ็ตทางอ้อม

นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ขอยืนยันว่าการใช้มาตรา 44 แก้ไข พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ดังกล่าว ชัดเจนว่ามุ่งช่วยพรรคที่จะเกิดขึ้นใหม่ พรรคสืบทอดอำนาจ ให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว พร้อมสำหรับการเลือกตั้ง ส่วนพรรคเก่าต้องสาระวนกับการแก้ปัญหาสมาชิกที่มีอยู่แล้ว ดูแล้วคือการรีเซ็ตสมาชิกพรรคทางอ้อมทั้งเรื่องเงื่อนไขการขาดสมาชิกพรรค การสร้างข้อบังคับสำหรับบีบพรรคเก่าสุ่มเสี่ยงกับการปฏิบัติตามคำสั่งไม่ได้ ในขณะทีพรรคใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นไม่ต้องทำอะไรที่ยุ่งยากเช่นนั้นเลย

จวกคสช.หวังสืบทอดอำนาจ

ด้าน นายสิงห์ชัย ทุ่งทอง อดีต ส.ว.อุทัยธานี กล่าวว่า นี่เป็นเรื่องทางเทคนิคที่ คสช.ต้องการจะอยู่ในอำนาจให้นานที่สุด เพื่อจะทำเรื่องต่างๆ ให้เรียบร้อยก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง วันนี้ชัดเจนแล้วว่ากระบวนการการปกครองประเทศต้องไม่พ้นระบอบประชาธิปไตย และ คสช.เองคงต้องลงมาเล่นตามระบบ แต่ก็ต้องวางอะไรไว้ให้เอื้อประโยชน์ต่อตนเองและพวกพ้องให้มากที่สุด พวกเขาต้องการรักษาอำนาจไว้แต่ก็ต้องอยู่ในระบอบประชาธิปไตย

เริ่มกวาดต้อนนักการเมืองเข้าคอก

“ได้ข่าวว่า คสช.จะเอากลุ่มนักการเมืองเก่าๆ มารวมกลุ่มกัน คิดว่ามันไม่มีอะไรใหม่และเกรงว่าประเทศเราจะกลับเข้าสู่วังวนเดิมๆ อีก ทั้งหมดคือการเล่นเกมของผู้มีอำนาจ แต่ต้องขอเตือน คสช.และนักการเมืองทั้งหลาย อย่ามัวแต่เล่นเกมชิงอำนาจกัน เพราะปัญหาของประชาชนระดับล่างกำลังมีมากขึ้น รวมทั้งการรุกคืบเข้ามาของนายทุนชาวต่างชาติ ผมกลัวว่าอีกไม่นานคนไทยจะไม่มีแผ่นดินทำกินเพราะคนระดับสูงกำลังเล่นเกมแย่งชิงอำนาจกันมากเกินไป” นายสิงห์ทอง กล่าว

ปริญญาแฉแผนล้างไพ่อดีตส.ส.

ขณะที่ นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล กล่าวตอนหนึ่งในการจัดเสวนาโต๊ะกลมสาธารณะ ครั้งที่ 2/1 หัวข้อ บ้านเมืองมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ตอน “รัฐธรรมนูญ-การเลือกตั้งครั้งแรกสู่ประชาธิปไตย” จัดโดยสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ว่า คำสั่ง คสช.ที่ 53/60 คือการเซตซีโร่ ส.ส.เก่า หรือล้างไพ่ ให้ ส.ส.สามารถเลือกพรรคใหม่หรือย้ายพรรคได้ โดยไม่ต้องลาออกจากพรรคเดิม สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ทันที ซึ่งผลในทางกฎหมายคำสั่งดังกล่าวทำให้ไม่ต้องยืนยันการเป็นสมาชิกพรรคใด

“หากเจตนาของคสช.คือต้องการล้างไพ่ ในส่วนของ ส.ส.ก็สามารถอยู่ได้ หากไม่ตั้งพรรคใหม่ขึ้นมา และการเลือกตั้งครั้งนี้คสช.อาจเตรียมการเข้าสู่สนามการเลือกตั้งไว้แล้ว” นายปริญญา กล่าว