ไลฟ์สไตล์ » สุขภาพ » #ความหวังจากที่พึ่งสุดท้าย! ดร.อาทิตย์ ยื่นมือช่วยหมอแสง ผลิต-วิจัยยารักษามะเร็ง มีโรงงานผลิตยาสมุนไพร มาตรฐาน GMP

#ความหวังจากที่พึ่งสุดท้าย! ดร.อาทิตย์ ยื่นมือช่วยหมอแสง ผลิต-วิจัยยารักษามะเร็ง มีโรงงานผลิตยาสมุนไพร มาตรฐาน GMP

12 January 2018
2096   0

ล่าสุดดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฏร์ ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก Arthit Ourairat ถึงหมอแสง และการรักษาโรคมะเร็ง โดยยืนยันพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือด้วยความเต็มใจ ในการจะช่วยผู้ป่วยด้วยโรงงานผลิตยาสมุนไพรที่มีมาตรฐาน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดระบุว่า

คณะเภสัชศาสตร์ และวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต ยินดี เต็มใจ และพร้อมที่จะร่วมมือและช่วยเหลือ “หมอแสง” ในการวิจัยและผลิตยารักษามะเร็งแก่ประชาชนและมนุษยชาติ

มหาวิทยาลัยรังสิตมีโรงงานผลิตยาสมุนไพร ที่มีมาตรฐาน GMP

อย่างไรก็ตามตั้งต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาซึ่งได้มีกระแสข่าวว่า มีหมอเทวดา แจกยารักษาโรคมะเร็งฟรี หลายคนรักษาแล้วหาย อยู่ที่ ต.บางเดชะ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี โดยหมอรายนี้คือ นายแสงชัย แหเลิศตระกูล เจ้าของสูตรยารักษามะเร็ง หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หมอแสง” ได้มีการแจกยารักษาโรคมะเร็ง ทำให้ผู้คนเดินทางจากทั่วประเทศ นับหมื่นคนมารับยาดังกล่าวทางด้าน นายแสงชัย เจ้าของสูตรสมุนไพรบำบัดมะเร็ง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตนทำสมุนไพรนี้มากว่า 10 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 จนมาถึงปัจจุบัน ไม่เคยเรียกรับเงิน ยาทั้งหมดให้ฟรี

สำหรับจุดเริ่มต้นที่ผลิตทำสมุนไพรตัวนี้ เนื่องจากลูกสาวป่วยเป็นมะเร็ง จึงเริ่มสูตรผสมยาที่ได้มา เริ่มจากนำไปทดลองใช้กับสุนัขจรจัด ที่ป่วยเป็นมะเร็งอวัยวะเพศ จับมาให้กินยาที่ทำ พบว่าสุนัขมีอาการดีขึ้น จึงเริ่มนำไปแจกผู้ป่วย โดยต้องไปหาผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งที่แพทย์รักษาไม่ได้แล้ว เมื่อนำยาไปให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้กิน อาการกลับดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยใช้เวลาทดลองยา กว่า 2 ปี จึงนำมาใช้กับลูกสาวตัวเอง

“แม้ที่ผ่านมา จะมีคนติดต่อขอซื้อยาสูตรนี้ แต่ตนไม่ขาย เพราะเป็นห่วงคนป่วย คนที่ยากจนต้องการที่พึ่งพิง สูตรยานั้นไม่หวง เพราะเป็นเพียงรำข้าวผสมกับสมุนไพร แต่จะถ่ายทอดให้กับคนที่ไว้ใจ และจิตใจดีเท่านั้น สิ่งที่ทำทุกวันนี้ เพราะรู้สึกดีกับการเป็นผู้ให้ ซึ่งการได้เห็นรอยยิ้มของชาวบ้าน มันคือกำลังใจ และถือเป็นการแบ่งปันโอกาสให้กับคนหมดหนทาง”

ขอบคุณเฟซบุ๊ก : Arthit Ourairat

วิฑูรย์ โคตรทุม
สำนักข่าววิหคนิวส์