เอเจนซีส์ – สถานทูตสหรัฐฯในกรุงพอดกอรีตซา มอนเตเนโกร ถูกโจมตีด้วยระเบิดแบบขว้างเวลา 00.30 น.ของวันพฤหัสบดี(22 ก.พ) ตามเวลาท้องถิ่น พบเกิดเหตุโจมตีถึง 2 ครั้งโดยในครั้งที่ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุเสียชีวิตหลังเกิดระเบิดขึ้น สถานทูตฯทวีตเตือนให้พลเมืองอเมริกันในพื้นที่ หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้ามาในบริเวณ ระบุ “พื้นที่เกิดเหตุยังคงมีความเคลื่อนไหว” เบื้องต้นยังไม่ทราบแรงจูงใจก่อเหตุ
Mgronline-RT สื่อรัสเซียรายงานวันนี้(22 ก.พ)ว่า เกิดเหตุไม่คาดฝันในช่วงเช้าวันใหม่เมื่อพบว่า มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อใช้ระเบิดแบบขว้างโจมตีเข้าไปในสถานทูตสหรัฐฯประจำมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นการโจมตี 2 ครั้งเกิดเหตุในเวลา 00.30 น.ของวันพฤหัสบดี(22 ก.พ) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งพบว่า “มีบุคคลไม่ทราบชื่อ” ได้ขว้างระเบิดจากถนนเข้าไปด้านในตัวสถานทูตสหรัฐฯ” รัฐบาลมอนเตเนโกรทวีตแถลงการณ์ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าวัตถุที่ถูกโยนในการทำแนววิถีโค้งเป็น “ระเบิดมือ“ และหลังจากนั้นคนร้ายก่อเหตุได้ฆ่าตัวตายด้วยระเบิดครั้งที่ 2
สื่อรัสเซียชี้ว่า ในเวลานี้เจ้าหน้าที่สอบสวนเริ่มการสอบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจคนร้าย และพบว่าได้ทำการปิดถนนบูเลอวาร์ดการปฎิวัติ (Revolution Boulevard) ทันที ซึ่งเป็นถนนที่ทางสถานทูตสหรัฐอเมริกาและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติมอนเตเนโกรตั้งอยู่
และในขณะเดียวสถานทูตสหรัฐฯได้ออกแถลงการณ์เตือนพลเมืองของตนเองที่อยู่ในพื้นที่ผ่านทางทวิตเตอร์ที่มีใจความว่า
“สถานทูตสหรัฐฯประจำกรุงพอดกอรีตซาแนะนำให้พลเมืองสหรัฐฯอยู่ที่นั่นว่า ในเวลานี้เกิดเหตุความมั่นคงที่ยังคงมีความเคลื่อนไหวอยู่ภายในพื้นที่สถานทูตในกรุงพอดกอรีตซา”
และในแถลงการณ์ได้เตือนต่อว่า “ขอให้หลีกเลี่ยงการเข้ามายังสถานทูตจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง”
นอกจากนี้ในวันนี้(22) ทางสถานทูตสหรัฐฯยกเลิกนัดหมายสำหรับการให้บริการวีซ่า และในส่วนการบริการพลเมืองสหรัฐฯ พบว่าทางสถานทูตประกาศว่า จะเปิดให้บริการเฉพาะกรณีฉุกเฉินเท่านั้น
DW สื่อเยอรมันรายงานเพิ่มเติม โดยได้อ้างการรายงานของสื่อออนไลน์ Portalanalitika.me ซึ่งพยานในที่เกิดเหตุกล่าวว่า ตำรวจมอนเตเนโกรเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว และปิดกั้นบริเวณโดยรอบถนนบูเลอวาร์ดการปฎิวัติ
นอกจากนี้หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯได้รายงานถึง สตีฟ โกลด์สตีน(Steve Goldstein) ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯด้านการทูตสาธารณะและกิจการสาธารณะที่ได้กล่าวว่า สภาพตัวอาคารสถานทูตไม่ได้รับความเสียหาย และไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเพราะเวลาที่เกิดอยู่ในช่วงกลางคืน
สำนักข่าววิหคนิวส์