คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเปิดเวทีใหญ่ใน กทม.เชิญตำรวจน้อยใหญ่ตั้งแต่ยศร้อยตำรวจตรีถึงยศพลตำรวจเอก วิพากษ์ข้อเสนอเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งจะต้องแก้ไขปรับปรุงจัดระเบียบองค์ประกอบรวมทั้งอำนาจหน้าที่ของ ก.ต.ช.และ ก.ตร จะไม่ให้ฝ่ายการเมืองหรือฝ่ายธุรกิจเข้ามาก้าวก่าย ขจัดการยัด”เด็กฝาก” หรือ”เซ็งลี้”เก้าอี้ ขณะเดียวกัน พลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ก็จะนำทีมลงตรวจการผลิตกำลังของพลตำรวจทั้งระดับโรงเรียนนายสิบและโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านการสื่อสารกับสังคมในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) แถลงว่าคณะอนุกรรมการด้านการรับฟังความคิดเห็นซึ่งมี พลอากาศเอกอิทธพร ศุภวงษ์เป็นประธาน ได้กำหนดเปิดเวทีสัมมนารับฟังความคิดเห็นครั้งที่ ๒ ที่กรุงเทพมหานครขึ้น ในวันอังคารที่ ๒๘ พฤศจิกายนนี้ เวลา ๐๘.๐๐-๑๕.๓๐ ณ โรงแรม เซ็นทาราศูนย์ราชการ ถนน แจ้งวัฒนะ โดยมีพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) เป็นประธาน
การเปิดเวทีสัมมนาดังกล่าว ก็เพื่อเปิดโอกาสให้ข้าราชการตำรวจและผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมรวมทั้งประชาชนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อร่าง พรบ.ตำรวจแห่งชาติที่จะขอแก้ไขใหม่ หลังจากนั้นจะได้รวบรวมความเห็นของผู้เข้าร่วมสัมมนาที่ได้เชิญไว้ประมาณ ๒๐๐ คนโดยได้เปิดให้ผู้เข้าร่วมสังเกตการณ์อีกจำนวนหนึ่งด้วย เสนอต่อคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม(ตำรวจ) ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดในรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๗๗ ในการนี้ได้มีหนังสือเชิญข้าราชการตำรวจตั้งแต่ยศพลตำรวจเอกลงมาถึงยศร้อยตำรวจตรีจำนวน ๑๓๐ คน ทั่วประเทศ และนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม และประชาชนทั่วไปจำนวนไม่น้อยกว่า ๕๐ คน สื่อมวลชนและผู้สังเกตการณ์ ๒๐ คน สำหรับผู้สังเกตการณ์ผู้ใดที่สนใจจะเข้าร่วมติดต่อ แสดงความจำนงได้ที่ นอ. เสกศักดิ์ ไวว่อง(๐๙๑-๔๙๕๙๑๖๕)และ นอ.สมบัติ วงศาโรจน์(๐๘๖-๗๙๐๒๐๐๘)ภายในวันที่ ๒๗ พฤศจิกายนนี้
สารสำคัญที่จะขอรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ก็คือการที่จะต้องมีการแก้ไข พรบ.ตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.)และของคณะกรรมการข้าราชการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีประเด็นใหญ่ๆ ๕ ประเด็นด้วยกันคือ
๑. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ก.ตช.ให้เป็นองค์กรกำหนดนโยบาย และยุทธศาสตร์ตำรวจ ยกเลิกอำนาจการคัดเลือกแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
๒. ก. แก้ไขเพิ่มเติมองค์ประกอบ อำนาจหน้าที่ ก.ต.ร. ให้เป็นองค์กรกำหนดหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลและตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้บังคับบัญชา รวมทั้งให้มีอำนาจพิจารณาคัดเลือกแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อมิให้ฝ่ายการเมืองเข้ามาก้าวก่ายการบริหารงานบุคคลของตำรวจโดยให้ผู้บังคับบัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เป็นประธานและเพิ่มเติมกรรมการผุ้ทรงคุณวุฒิที่เป้นบุคคลภายนอกเพื่อเป็นการถ่วงดุลกับกรรมการโดยตำแหน่ง
ข. แก้ไขเพิ่มเติมหลักการในการกำหนดหลักเกณฑ์วิธีการแต่งตั้งโยกย้ายเพื่อป้องกันการใช้อำนาจหรือกระทำการโดยมิชอบที่เป็นการก้าวก่ายแทรกแซงการปฏิบัติหน้าที่หรือกระบวนการแต่งตั้ง
๓. กำหนดให้การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจทุกระดับมีคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งทั้งระดับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและระดับกองบัญชาการ ให้ทำหน้าที่พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
๔. แก้ไขเพิ่มเติมให้กระจายอำนาจการแต่งตั้งให้ผู้บัญชาการหน่วยที่มิได้สังกัดสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจมีอำนาจแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรองผู้บังคับการลงไป
๕. ก. กำหนดให้การพิจารณาบำเหน็จความชอบเลื่อนเงินเดือนเป็นในรูปคณะกรรมการ
สำนักข่าววิหคนิวส์