เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ กำลังผลักดันให้มีการควบคุมเพดานราคาน้ำมันรัสเซีย เพื่อสกัดแหล่งเงินของรัสเซียที่ใช้ทำสงครามในยูเครน บรรดาเจ้าหน้าที่ยอมรับว่าเป้าหมายของมาตรการดังกล่าวคือ กำหนดเพนดานราคาให้อยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งครอบคลุมถึงต้นทุน รวมด้านการผลิตด้วย เพื่อที่มอสโกจะยังคงมีแรงจูงในการส่งออกน้ำมันต่อไป
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์รายงานโดยอ้างคำพูดของ อเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซียในวันพุธ (20 ก.ค.) เตือนว่า “ถ้าราคานี้ที่พวกเขากำลังพูดถึง ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตน้ำมัน แน่นอนว่าเมื่อนั้นรัสเซียไม่รับประกันว่าจะป้อนน้ำมันสู่ตลาดโลก พูดง่ายๆ เลย มันหมายความว่าเราจะไม่ทำอะไรที่ขาดทุน”
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน บอกกับผู้สื่อข่าวก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน เตือนว่าราคาน้ำมันจะพุ่งสูงกว่านี้อีกหากว่ามีกำหนดเพดานควบคุมราคา
แม้มีความพยายามสกัดแหล่งรายได้จากพลังงานของรัสเซีย แต่ทางสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์รายงานเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ว่าประเทศต่างๆ อย่างเช่น บราซิล จีน อินเดีย บางชาติในแอฟริกาและตะวันออกกลาง ได้นำเข้าพลังงานจากรัสเซียเพิ่มมากขึ้น หลังมีการปรับลดราคาลงอย่างมาก สืบเนื่องจากบรรดาโรงกลั่นในยุโรปจำนวนมากหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย
ก๊าซพรอม รัฐวิสาหกิจพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซีย เปิดเผยว่าปริมาณการส่งออกก๊าซรายวันไปยังจีน ผ่านท่อลำเลียงพาวเวอร์ออฟไซบีเรีย สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) โดยอุปทานดังกล่าวเป็นการส่งมอบตามสัญญาระยะยาวระหว่าง ก๊าซพรอมกับ CNPC บริษัทจีน
ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน ก๊าซพรอม รายงานว่าการส่งออกก๊าซผ่านท่อลำเลียงไปยังจีน เติบโตขึ้นถึง 60% ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ นอกจากนี้ ปักกิ่งยังนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากมอสโกด้วย
รัสเซียลำเลียงอุปทานสู่จีนเพิ่มมากขึ้น สวนทางกับกระแสก๊าซที่ป้อนไปยังยุโรป ผ่านท่อลำเลียงนอร์ดสตรีม 1 ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเดือนที่แล้ว ก๊าซพรอมกล่าวโทษปัญหาทางเทคนิค อันมีต้นตอจากมาตรการคว่ำบาตรนานาชาติที่กำหนดเล่นงานรัสเซีย พร้อมกับเน้นย้ำว่าพวกเขายังคงเป็นผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติที่มีความน่าเชื่อถือ และจะยึดมั่นภาระผูกพันตามสัญญาที่มีกับบรรดาลูกค้าทั้งหลาย
(ที่มา : รอยเตอร์/อาร์ทีนิวส์)