เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #ขสมก.ร้องน้ำมันแพง ! บุกทำเนียบให้ลดราคา ด่วน

#ขสมก.ร้องน้ำมันแพง ! บุกทำเนียบให้ลดราคา ด่วน

4 November 2021
406   0

วันนี้ (4 พ.ย.64) เวลา 10.00 น. ที่ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล สำนักงาน กพ. กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สร.ขสมก.) นำโดยนายบุญมา ปงมา พร้อมมวลชนประมาณ 30-50 คน เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ผ่านนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จากการที่ได้รับผลกระทบน้ำมันแพงและการเก็บภาษีสรรพสามิต

โดยนายบุญมา ปงมา พร้อมมวลชนได้อ่านแถลงการณ์หน้าอาคารกพร.ว่าด้วยองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพเป็นรัฐวิสาหกิจจัดตั้งขึ้นตามพระราชกฤษฎีกา พ.ศ. ๒๕๑๙ มีวัตถุประสงค์ในการรับขนคนโดยสารในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลปัจจุบันมีรถยนต์โดยสารประมาณ 1,000 คันที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติเป็นพลังงานซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2563-กันยายน 2564 ขสมก. ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง 53,568,000 ลิตรคิดเป็นเงิน 1,202,975,003.25 บาทและใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง 36,624,890.19 (กก.) คิดเป็นเงิน 507,150,229.71 บาทรวมเป็นเงิน 1,710,125,232.96 บาทและมีแนวโน้มราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติจะสูงขึ้นตามกลไกของตลาดโลกทำให้ภาคขนส่งเช่นขสมก., รฟท. และบขส. ฯ ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพขอให้รัฐบาลลดราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติหรืองดเก็บภาษีน้ำมัน ๓ เดือนเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับขสมก. หรือสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดเป็นเชื้อเพลิงเช่นพลังงานไฟฟ้าหรือก๊าซธรรมชาติจึงขอกราบเรียนเพื่อโปรดมีบัญชาให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินการต่อไปด้วย

ขณะที่สมพาศ นิลพันธ์ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญในเรื่องพลังงานสะอาด และการลดมลพิษ โดยหลังจากที่กลับมาจากการประชุมที่ประเทศสก๊อตแลนด์ ก็ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบเรื่องดังกล่าวโดยตรง ส่วนในเรื่องพลังงานและราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นลงนั้น ก็ได้สร้างผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่โดยเฉพาะภาคเกษตรและภาคขนส่ง ในฐานะตัวแทนศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ทำเนียบรัฐบาล จะรีบนำเรื่องร้องเรียนกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ และจะแจ้งผลการดำเนินการให้ทราบต่อไป