ข่าวประจำวัน » #กอบศักดิ์”ถือฤกษ์ดี 7 นาฬิกา สักการะสิ่งศักดิ์ประจำทำเนียบฯ ระบุทำงานให้สำเร็จ ภายใน 1 ปีเป็นสิ่งท้าทาย หวังปฏิรูปเศรษฐกิจเดินหน้าได้ น้อมนำพระราชดำรัสทำปชช.อยู่ดีกินดี

#กอบศักดิ์”ถือฤกษ์ดี 7 นาฬิกา สักการะสิ่งศักดิ์ประจำทำเนียบฯ ระบุทำงานให้สำเร็จ ภายใน 1 ปีเป็นสิ่งท้าทาย หวังปฏิรูปเศรษฐกิจเดินหน้าได้ น้อมนำพระราชดำรัสทำปชช.อยู่ดีกินดี

1 December 2017
584   0

สยามรัฐ-เมื่อเวลา 07.05 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล โดยเริ่มจากขึ้นสักการะท้าวมหาพรหมพร้อมกับคณะทำงาน ที่ตึกไทยคู่ฟ้า 

ก่อนลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตาศาลยาย พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า การเข้ามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบฯ เวลานี้ เป็นฤกษ์ดีที่พระอุปัชฌาย์ที่วัดสะแก จ.นครราชสีมาดูให้ คือฤกษ์ดีตั้งแต่เวลา 07.00 น.เป็นต้นไป ก่อนอารมณ์ดีชวนผู้สื่อข่าวถ่ายรูปเป็นที่ระลึกพร้อมกล่าวยืนยันว่า แม้จะเป็นรัฐมนตรีแล้วก็ยังเหมือนเดิมยังพร้อมรับโทรศัพท์ของผู้สื่อข่าวเช่นเดิม
ต่อมานายกอบศักดิ์ ให้สัมภาษณ์ว่า งานที่ต้องทำไม่ได้หนักใจอะไร เพราะงานหลายอย่างทำมาอยู่แล้ว แต่ความท้าทายที่สำคัญที่สุดคือมีเวลาสั้นๆ แค่ 1 ปี ในการทำทุกอย่างให้สำเร็จ ซึ่งตนได้ช่วยงานรัฐบาลทำเรื่องปฏิรูปมาตั้งแต่สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) รวมถึงรัฐมนตรีใหม่หลายคน และทีมงานที่มีอยู่แล้วทุกคนจะช่วยกันให้ปีนี้เป็นปีที่สำคัญในการปฏิรูปเพื่อประชาชน เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีได้มอบภารกิจพิเศษอะไรบ้าง นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้มอบหมายอะไร เพราะเพิ่งถวายสัตย์ปฏิญาณตนมา แต่เดี๋ยวนายกฯ คงจะมอบหมายงาน ให้ตนกับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าจะแบ่งงานกันอย่าง ไร แต่คาดว่า นายกฯ จะมอบหมายงานบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจให้ตนทำ เช่น สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งมีประเด็นหลายอย่างที่จะช่วยได้ในเรื่องเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่า ตื่นเต้นกับตำแหน่งรัฐมนตรีหรือไม่ นายกอบศักดิ์ ตอบว่า ไม่ตื่นเต้นเลย ทำงานที่ทำเนียบฯมา 2 ปีแล้ว อยู่ที่ตึกบัญชาการ 1 มาตลอด แค่ย้ายจากชั้น 1 ไปชั้น 2 ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่ที่เปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่จะใช้ตำแหน่งที่รับมาขับเคลื่อนงานให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะมีหลายเรื่องที่ประชาชนรอ ทั้งการช่วยเหลือคนยากจน คนที่อยู่ฐานราก และการเปลี่ยนแปลงอนาคตประเทศไทยสำหรับลูกหลานของเรา ก็อยากจะใช้เวลา 1 ปีที่มีอยู่ทำเรื่องเหล่านี้ เมื่อถามว่า จากพระราชดำรัสของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะน้อมนำมาปฏิบัติอย่างไร นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า พระองค์ท่านทรงตรัสให้พิจารณาถึงสิ่งที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงทำเป็นแบบอย่างไว้ และให้นำมาสู่การปฏิบัติ ซึ่งตนได้นำคิด ว่าแนวคิดของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์นักคิด นักพัฒนา และเห็นช่องทางในการพัฒนาประเทศไทยเป็นสิ่งที่หลายๆคนไม่ทันเฉลียวใจ


นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้เราไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับชนบท และประชาชน ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาที่เน้นถึงความเข้มแข็งของตำบล หมู่บ้านจริงๆ แต่เราไปเน้นที่บริษัทขนาดใหญ่ พื้นที่อุตสาหกรรม และพัฒนาความก้าวหน้าเฉพาะพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนพื้นที่อื่นแห้งแล้งหมดเลย จังหวะนี้จึงเป็นเรื่องที่ดีที่จะน้อมนำกระแสพระราชดำรัสที่บอกว่า การพัฒนาต้องทำตามลำดับขั้น และสร้างความกินดีอยู่ของประชาชนก่อน แล้วนำไปสู่การพัฒนาอย่างแท้จริงต่อ ซึ่งนายกฯมีดำริว่า อยากจะทำเรื่องของการแก้ไขปัญหาคนจนในปีนี้ และตนยินดีช่วยอย่างเต็มที่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่เหลือ 1 ปี จะกดดันหรือไม่ เพราะต้องเร่งสร้างผลงาน นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้กดดันมาก เพราะได้เตรียมงานไว้เยอะแล้ว เพราะหากถ้าเรามารับตำแหน่งขนาดนี้ แต่ยังไม่มีการศึกษา ไม่มีแนวทางในการทำงานก็คงกดดันมาก เพราะมีเวลาแค่ 1 ปี ว่าจะต้องทำอะไร ซึ่งขณะนี้เรามีข้อเสนอไว้หมดแล้ว อย่างล่าสุดมีเรื่องของสถาบันการเงิน ของประชาชนตามตำบลต่างๆ การปฏิรูปการคลังและแผนปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งเวลา 1 ปีที่เหลือนี้คาดว่าทำได้มากขึ้น

สำนักข่าววิหคนิวส์