เรื่องฮอต ประเด็นฮิต » #กระอักแน่ ! ดีเซลขึ้น 1 บาท แต่กลุ่มเบนซิน โซฮอล์ปรับลดลง

#กระอักแน่ ! ดีเซลขึ้น 1 บาท แต่กลุ่มเบนซิน โซฮอล์ปรับลดลง

6 June 2022
242   0

   กบน.มีมติปรับขึ้นดีเซลเป็นสัปดาห์ที่ 2 อีก 1 บาทต่อลิตรแตะ 33.94 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้(7มิ.ย.)เป็นต้นไปพร้อมปรับลดการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯอุ้มผู้ใช้กลุ่มแก๊สโซฮอล์ ทั้งแก๊สโซฮอล์ 91,95 และE20 เฉลี่ย 1 บาทต่อลิตร แต่ต้องรอราคาตลาดโลกช่วงบ่ายมีลุ้นลดราคาลงพรุ่งนี้

นายวิศักดิ์ วัฒนศัพท์ ผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงานเป็นประธานเมื่อ 6 มิ.ย. ได้ทบทวนราคาดีเซลประจำสัปดาห์โดยเห็นชอบปรับขึ้นราคาดีเซลอีก 1 บาทต่อลิตรจากเดิม 32.94 บาทต่อลิตรเป็น 33.94 บาทต่อลิตรมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป ทั้งนี้เนื่องจากราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูปตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 158.9 เหรียญฯต่อบาร์เรลในวันที่ 2 มิ.ย.จากสัปดาห์ก่อนอยู่ที่149.49เหรียญต่อบาร์เรลจากมาตรการคว่ำบารตงดนำเข้าน้ำมันของกลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)ต่อรัสเซีย จีนเปิดประเทศที่ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้น และน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯลดลง

“ ยอมรับว่าสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกยังคงสูงและหากแนวโน้มสัปดาห์หน้าราคายังทรงตัวระดับนี้และไม่มีปัจจัยใดๆ การประชุมกบน.ที่จะมอนิเตอร์รายสัปดาห์ในครั้งหน้ามีโอกาสที่จะต้องปรับขึ้นอีก1 บาทต่อลิตรไปสู่ระดับ 34.94 บาทต่อลิตรเนื่องจากหลังจากที่ปรับขึ้นแล้วล่าสุดกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเองยังคงต้องอุดหนุนดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 8.81 บาทต่อลิตรขณะที่ฐานะกองทุนน้ำมันฯสุทธิติดลบ 8.6 หมื่นล้านบาท”นายวิศักดิ์กล่าว

นอกจากนี้เพื่อบรรเทาผลกระทบให้กับผู้ใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินโดยปรับลดการเก็บเงินเข้าจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของแก๊สโซฮอล์ 91และแก๊สโซฮอล์ 95 จากเดิมเก็บเข้า 1.02 บาทต่อลิตรเหลือ 0.09 บาทต่อลิตร และแก๊สโซฮอล์E20 จากที่เก็บ 0.12 บาทต่อลิตรเป็นชดเชยที่ 0.82 บาทต่อลิตรซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.-30 มิ.ย. ซึ่งจะมีผลให้ราคาขายปลีกปรับตัวลดลงราว 0.93-0.94 บาทต่อลิตรวันพรุ่งนี้แต่ทั้งนี้คงจะต้องรอราคาน้ำมันตลาดโลกช่วงบ่ายนี้เป็นสำคัญว่าจะลดลงในอัตราใด


นายพรชัย จิรกุลไพศาล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและยุทธศาสตร์ สกนช. กล่าวว่าประมาณการฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง5 มิถุนายน 2565 ติดลบ 86,028 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นบัญชีน้ำมันติดลบ 50,147 ล้านบาทและบัญชีก๊าซLPG ติดลบ 35,881 ล้านบาทซึ่งตามมติครม.เมื่อ 22มี.ค.ได้กำหนดให้ช่วยเหลือดีเซลเหลือกึ่งหนึ่งจากที่อุดหนุนและครั้งนั้นได้กำหนดเพดานไว้ไม่เกิน35 บาทต่อลิตรภายในสิ้นมิ.ย.นี้ดังนั้นยังคงมีช่องว่างสำหรับการปรับขึ้นอีก1 บาทต่อลิตร อย่างไรก็ตามหากพิจารณาจากต้นทุนจริงจะต้องขยับไปถึง 36.41บาทต่อลิตร

“มติครม.ก.ค.คือจะไม่มีการชดเชยดีเซลเลยดังนั้นก็จะต้องรอดูนโยบายจากภาครัฐที่คาดว่าจะได้ข้อสรุปสิ้นมิ.ย.นี้ว่าจะมีแนวทางอย่างใดแน่รวมไปถึงการชดเชยราคาแอลพีจีแม้ว่าจะมีการปรับราคาขายปลีกไปแล้ว 3 ครั้งล่าสุด 1
มิ.ย.มาอยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม(กก.)แต่ก็ยังชดเชยอยู่อีกราว 13บาทกว่าต่อกก.เพราะจะมีผลต่อการกู้เงินของกองทุนฯล็อตแรก 2 หมื่นล้านบาทซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการดำเนินงานอยู่”นายพรชัยกล่าว

ส่วนความคืบหน้าการจัดหาเงินเข้ามาเสริมสภาพคล่องกองทุนน้ำมันฯ จากที่ขณะนี้มีเงินหมุนเวียนเพียง 1
หมื่นล้านบาทนั้น อยู่ในระหว่างหารือกับกระทรวงการคลัง โดยแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบคือ 1 การกู้เงินจากสถาบันการเงิน 2 หมื่นล้านบาท และ 2.การใช้เงินงบประมาณจากภาครัฐที่เข้ามาดูแลตามมติ ครม.วันที่ 22 มี.ค.65 จะมีการใช้เงินดูแลดีเซลประมาณ3.3 หมื่นล้านบาท และดูแลLPGประมาณ3.6 พันล้านบาทเงินส่วนนี้ก็จะมีการเสนอขอใช้งบฯภาครัฐมาเสริมสภาพคล่องให้กองทุนน้ำมันฯเพราะนับเป็นการดำเนินการตามนโยบายภาครัฐ