วันนี้ (17 ม.ค. 67) ในการแถลงผลงานของหน่วยงานภายใต้กระทรวงยุติธรรม พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีเกี่ยวกับการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนเข้ามาในราชอาณาจักร เปิดเผยถึง ความคืบหน้าในการดำเนินคดี ที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อนว่า ในคดีที่เกี่ยวข้องกับการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูเถื่อน คดีพิเศษที่ 59/2566 ซึ่งเป็นตกค้างท่าเรือแหลมฉบัง 161 จำนวนตู้ มูลค่าความเสียหาย 460 ล้านบาท ได้มีการสืบสวนสอบสวน แยกสำนวนคดีพิเศษรวม 10 เลขคดี และได้ส่ง 1 สำนวนคดีให้ ป.ป.ช. ไต่สวนเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องแล้ว ส่วนอีก 2 สำนวนที่สองบริษัทชิปปิ้ง และเจ้าหน้าที่รัฐรู้เห็นด้วย อยู่ระหว่างเสนออธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก่อนส่งมอบ ป.ป.ช. ในชั้นต่อไป และอีก 7 สำนวนอยู่ระหว่างตรวจสอบ
นอกจากนี้ ยังได้ขยายผล และแยกการสอบสวนดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมูจำนวนตู้คอนเทนเนอร์ 2,388 ตู้ ที่สำแดงเท็จเป็นปลาหรือโพลิเมอร์ แต่ส่งออกเป็นเนื้อหมู มูลค่าความเสียหาย 1.5 หมื่นล้านบาท ส่วนการดำเนินคดีพิเศษที่ 127/2566 กับกลุ่มสวมสิทธิ์ส่งออกตีนไก่ ซึ่งถือเป็นกลุ่มองค์กรอาชญากรรมที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหาร และเกษตรกร มูลค่าความเสียหาย 6,000 ล้านบาทนั้น ได้ออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว 5 ราย ในความผิด พ.ร.บ.ศุลกากร , พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ และประมวลกฎหมายอาญา ในข้อหาอั้งยี่และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน จับกุมได้ 3 ราย คือ นายสมเกียรติ กอไพศาล, นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย อีก 2 รายคือ นายหลี่ เซิ่งเจียว หรือเฮียเก้า และลูกชายยังหลบหนีอยู่ต่างประเทศ ซึ่งทั้งคู่ได้ประสานเจ้าหน้าที่มาแล้ว แต่ยังไม่ยืนยันเรื่องการเข้ามามอบตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐหรือข้าราชการฝ่ายการเมืองมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ส่วนจะมีการเชิญตัวนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เข้ามาให้ข้อมูล หลังจากที่เมื่อวานนี้ ได้แถลงข่าวชี้แจงว่าไม่มีความเกี่ยวข้องหรือรับผลประโยชน์จากการนำเข้าเนื้อสัตว์เถื่อน รวมถึงความสัมพันธ์กับนายสมเกียรติ หนึ่งในผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมแล้วนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ตามหลักการถ้าพบว่าบุคคลใดมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีก็จะพิจารณาเรียกก็มาให้ข้อมูลตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ
ด้านนายสมบูรณ์ ม่วงกล่ำ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยืนยันว่าการดำเนินการในคดีนี้ไม่ล่าช้า เพียงแต่มีความซับซ้อน ส่วนกรณีที่เมื่อวานนี้ อธิบดีกรมปศุสัตว์ และคณะ ได้เข้าพบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมนั้น ก็เป็นการเข้ามาแสดงเจตนารมณ์ ที่พร้อมสนับสนุนข้อมูลให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษเท่านั้น ซึ่งหากมีใครมาชี้แจงก็พร้อมรับฟัง แต่จะไม่ทำให้ดุลยพินิจของพนักงานสอบสวนเปลี่ยนไ