ณรงค์ศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
นโยบาย เงินดิจิตอล 10,000 บาท ไปต่อหรือพอแค่นี้ !!
เชื่อว่าพวกเราหลายคนคงจะรอเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐบาลนายกเศรษฐาประกาศจะแจกในรูปแบบของเงินดิจิทัล แต่ในช่วงที่ผ่านมาสิ่งที่ทำให้สับสนกันอยู่ไม่น้อย นั่นคือเงินดิจิทัลที่จะแจกให้นั้น จะได้กันเมื่อไหร่ ใครจะได้บ้าง มีแนวทางดำเนินงานอย่างไร และที่สำคัญมีนักเศรษฐศาสตร์จำนวนมาก รวมถึงผู้รู้อีกหลายท่าน ได้ส่งคำเตือนถึงความเหมาะสมและผลกระทบที่คาดว่าจะเกิดขึ้นไปยังรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน แต่คำถามคือว่านโยบายนี้จะเดินหน้าต่อ หรือจะรอไปก่อน ด้วยรัฐบาลเชื่อว่านโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ 2 ด้านนั่นคือ การกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศโดยประชาชนที่ได้รับเงินดิจิทัลจะนำไปซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ในระบบเศรษฐกิจ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถขายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น และในอีกด้าน รัฐบาลเชื่อว่าเงิน 10,000 บาทในแต่ละครอบครัว จะสามารถรวมกันเพื่อก่อให้เกิดเป็นเงินลงทุนเพื่อดำเนินธุรกิจขนาดเล็ก เป็นอาชีพหลัก หรือเป็นอาชีพเสริมต่อไปได้ ในระยะเวลสที่ผ่านรัฐบาลเริ่มหาแนวทางในการแจกเงินตามนโยบายหาเสียงนี้ ได้มีกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์และนักคิดหลายท่าน ท้วงติ่งนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาทในหลายประเด็น ซึ่งประเด็นที่สำคัญจะเป็นความกังวลในเรื่องของต้นทุนทางนโยบายที่ต้องใช้งบประมาณถึง 5.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 1.5% ของ GDP ไทย ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของรัฐบาลในระยะยาว ดังนั้นระหว่างที่รอระบบให้เสร็จใช้ได้นั้น รัฐบาลเศรษฐาคงจะต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญในการหาจุดสมดุลที่เหมาะสม ถึงการใช้งบประมาณ แหล่งที่มาของเงินจำนวนมหาศาล ผลกระทบจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีผลต่อค่าเงินบาท รวมทั้งอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างการดำเนินนโยบาย ซึ่งจะเป็นแรงกดดันในการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในอนาคต และแนวการปฏิบัติและชัดเจน เพื่อให้ผลที่เกิดขึ้นของนโยบายนี้ และรัฐบาลจะโกหกประชาชนหรือไม่ประชาชนจะได้เห็นกระจ่างชัดขึ้น