คปท. บุกทำเนียบฯ จี้ รบ.ส่งตัว “ทักษิณ” กลับเรือนจำ ไม่เชื่อป่วยวิกฤตจริง จ่อร้องป.ป.ช. เอาผิด ม.157 กับ รมว.ยุติธรรม- อธิบดีกรมราชทัณฑ์ หมอตุลย์ ชี้อาการไม่สาหัส ไปรักษา mRI ไร้จนท.รพ.
เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 12 มกราคม ที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล นายนัสเซอร์ ยีหมะ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี ได้ร่วมกันแถลงการณ์ถึงจุดยืนการทำกิจกรรมชุมนุม ที่ใช้ชื่อว่า“ทวงคืนความยุติธรรม” กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเกิน 120 วัน
นายพิชิตกล่าวว่า วันนี้ถือเป็นวันแรกของการมาส่งเสียงของประชาชน เพื่อสื่อสารไปยังรัฐบาล กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อยู่นอกเรือนจำเป็นวันที่ 141 และอยากให้สังคมร่วมกันจับตามองการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ และชัดเจนว่าวันนี้ กรมราชทัณฑ์ได้ประกาศให้นายทักษิณรักษาตัวต่อหลังเกิน 120 วัน โดยไม่มีคำตอบให้สังคม และให้เฝ้าระวังอาการเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาไม่เคยมีนักโทษคนไหนเคยได้รับการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และที่ผ่านมา ถามมาตลอดว่านายทักษิณป่วยด้วยโรคอะไร แต่วันนี้คำตอบที่ได้คือ ให้นายทักษิณนอนรักษาตัวต่อ
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
นายพิชิตกล่าวว่า วันนี้กลุ่ม คปท.จึงต้องมาแสดงพลัง เพื่อบอกว่าทางกลุ่มไม่เห็นด้วยกับการที่กรมราชทัณฑ์ขยายเวลาการรักษาตัวให้นายทักษิณเกิน 120 วัน และจะล่ารายชื่อให้ครบ 120 วัน เพื่อยื่นต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้ประธานศาลฎีกา ให้นำไปสู่การไต่สวนการทำงานกับ ป.ป.ช. และในวันที่ 16 มกราคม กลุ่ม คปท.จะเดินทางไปยังสำนักงาน ป.ป.ช.เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากยื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบว่าให้สอบข้าราชการ ตั้งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงที่ทำปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วยไม่เชื่อว่าอาการของนายทักษิณป่วยขั้นวิกฤต และยืนยันว่ากลุ่ม คปท.ไม่เชื่อว่านายทักษิณอยู่ในอาการวิกฤตแน่นอน หลังจากการชุมนุมรอบนี้ หากยังไม่มีความชัดเจน จะมีการประเมินยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
ด้าน นพ.ตุลย์กล่าวว่า ตั้งแต่นายทักษิณกลับสู่เมืองไทย 22 สิงหาคม ทุกคนได้เห็นแล้วว่า อาการก็ปกติดี และเมื่อเข้าคุกแล้วนักโทษคนหนึ่งจะออกจากเรือนจำไปรักษาตัว ต้องมีอาการหนักตามกฎของกระทรวงยุติธรรม ซึ่งหากเทียบอาการตอนเช้าของวันที่ 22 สิงหาคม กับช่วงกลางคืน 22 สิงหาคม ต่อเนื่อง 23 สิงหาคม อาจจะต้องมีการสร้างสตอรี่ขึ้นหรือไม่ จริงๆ อาการไม่หนักแต่บอกหนัก ทางการแพทย์เรียกว่า ‘ผิดวิชาชีพเวชกรรม’ และการส่งนายทักษิณตรงไปห้องพิเศษ ก็มองว่า ผิดหลักการแพทย์ และผิดหลักกฎหมายโดยสิ้นเชิง ตามหลักนั้น ต้องถูกส่งไปตรวจที่ห้องฉุกเฉินก่อน และหากอาการไม่หนัก ก็จะต้องถูกส่งตัวกลับไปที่เรือนจำ และหากจะรักษาตัวต่อต้องอยู่ในไอซียูไม่ใช่ห้องพิเศษ ซึ่งตามกฎกระทรวงระบุว่าต้องไม่บรรจุผู้ต้องขังในห้องพิเศษ โดยหลังจากนี้ จะยื่นฟ้องในฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่มาตรา 157 และจะมีการยื่นร้องต่อแพทยสภาต่อไป เพราะเข้าข่ายผิดวิชาชีพเวชกรรม เพราะวิชาชีพเวชกรรมต้องไม่ให้การที่เป็นเท็จในการประกอบวิชาชีพ ดังนั้นจึงเป็นที่สงสัยว่า มีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมช่วยเหลือให้อยู่โรงพยาบาลตำรวจไม่ได้อยู่ในคุกด้วย
โฆษณา – อ่านบทความต่อด้านล่าง
นพ.ตุลย์กล่าวว่า ส่วนเรื่องอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจจริงหรือไม่ รักษาด้วยโรคอะไร ข้อมูลนี้เป็นข้อมูลส่วนบุคคล และยืนยันว่า การที่นายทักษิณอยู่หรือไม่อยู่ในโรงพยาบาล ไม่ได้เป็นความลับเพราะเป็นการตรวจสอบตามกฎหมาย และได้ยินมาว่า หมอโรงพยาบาลตำรวจหลายคนก็ไม่สบายใจ ที่มาช่วยสร้างสตอรี่ที่โรงพยาบาลนี้ โดยวันนี้มาในฐานะผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม จึงมองว่าการแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจกำลังทำลายระบบทางการแพทย์ด้วย
“นพ.ตุลย์ขอมาแฉ นายแพทย์ ส. ที่ส่องกล้องที่ไหล่ ทำให้ช่วยเหลือนายทักษิณให้อยู่โรงพยาบาลตำรวจโดยไม่ต้องอยู่ในคุก การที่ทักษิณเป็นนักโทษเทวดา เพราะมีแพทย์บางคนสร้างสตอรี่อันเป็นเท็จให้มีอาการหนักเกินจริงเพื่อไม่ต้องกลับเข้าไปรับโทษในคุก ดังนั้นเพื่อคืนความยุติธรรม ทางกลุ่มจึงเรียกร้องให้ส่งตัวนายทักษิณกลับไปรับโทษในคุกโดยทันที” นพ.ตุลย์กล่าว
นพ.ตุลย์กล่าวว่า หลักฐานการรักษาเป็นข้อมูลส่วนตัวที่เปิดเผยไม่ได้ แต่ตัวแพทย์ที่รักษาไม่เป็นความลับ และการที่ตัวของทักษิณอยู่โรงพยาบาลตำรวจนั้นก็เปิดเผยได้ เพราะนายทักษิณไม่ใช่คนปกติ แต่เป็นนักโทษ ดังนั้นจะต้องมีการยืนยันได้ว่านายทักษิณอยู่ในเรือนจำหรือไม่ และการที่จะอยู่โรงพยาบาลตำรวจได้จะต้องมีอาการหนัก แต่เราทราบว่าในการให้ข้อมูลจากคนในโรงพยาบาลตำรวจ ที่ให้ข้อมูลตนเองมานั้น ทีมแพทย์ที่เกี่ยวข้องที่รับตัวคือ ‘หมอทางสมอง’ และไม่ได้ปรากฏหลักฐานว่า นายทักษิณเข้าห้องฉุกเฉินและห้องไอซียู ซึ่งข้อมูลนี้สามารถตรวจสอบได้ และโรคต่างๆ ของนายทักษิณ 4 โรคในวันแรกๆ ตามที่ปรากฏ สามารถรักษาด้วยยาฉีดและผ่าตัดได้ และหากโรคหัวใจเส้นเลือดตีบตัน สามารถทำได้อยู่แล้วโดยที่ไม่ต้องนอนในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งหากเป็นแบบนั้นก็ควรจะออกข่าวมาเลย แต่การออกมาแบบนี้ไม่เนียน รวมถึงคนไข้ที่อยู่ห้องพิเศษ แล้วอาการหนักควรจะต้องย้ายไปอยู่ไอซียู แต่กรณีนี้ไม่ได้ไปอยู่ ซึ่งแพทย์ทุกคนเมื่อเห็นสตอรี่แบบนี้เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นแพทย์บุคคลที่สร้างสตอรี่ ก็ควรจะต้องร่วมรับผิดชอบในเรื่องนี้ และการที่มีภาพปรากฏว่า เข็นนายทักษิณเข้ารับการรักษาที่เผยแพร่ออกมา 1 ภาพนั้น ก็ได้ข้อมูลด้วยว่า บุคคลที่อยู่รายล้อมรถเข็นในภาพ ไม่มีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลตำรวจแม้แต่คนเดียว
นพ.ตุลย์กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า นายทักษิณมีภาวะโรคลิ้นหัวใจรั่วนั้น จะถือเป็นความเสี่ยงขั้นวิกฤตหรือไม่ นายแพทย์ตุลย์ระบุว่ายังไม่เคยได้ยิน เรื่องการที่ทักษิณเป็นโรคลิ้นรัวใจรั่ว และถ้าเป็นต้องเป็นมานานแล้ว และมองว่าถ้าเป็นจริง จะเตะกระสอบทรายโชว์ได้อย่างไร
ส่วน 4 โรคที่กรมราชทัณฑ์เปิดเผยอาการของนายทักษิณในวันที่เข้ารับการรักษาตัววันแรก จะมีความเสี่ยงถึงขั้นป่วยเป็นภาวะโรคลิ้นหัวใจรั่วหรือไม่นั้น นพ.ตุลย์กล่าวอีกว่า จะต้องป่วยเป็นความดันโลหิตสูงมากๆ และป่วยเป็นระยะเวลานาน จนถึงขั้นหัวใจโตไปปิดลิ้นหัวใจ และกรณีหากโรคเดิมร้ายแรงมาก แล้วมีโรคใหม่แทรกซ้อนมา หากไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แพทย์จะไม่ผ่าตัด แต่กรณีนายทักษิณกลับพบว่า ได้รับการผ่าตัดหัวไหล่ นั่นทำให้ยิ่งเป็นหลักฐานว่า อาการป่วยของนายทักษิณไม่ได้สาหัสจริง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เป็นความร่วมมือของแพทย์และกรมราชทัณฑ์ ที่จะช่วยเหลือนายทักษิณ
เมื่อถามถึงกรณีที่กรรมาธิการการตำรวจขึ้นไปตรวจสอบบริเวณชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แล้วเจอตำรวจท้องที่ ตำรวจสันติบาล และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์รวม 8 นาย เป็นการยืนยันได้หรือไม่ว่านายทักษิณยังอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายแพทย์ตุลย์มองว่า ไม่เป็นการการันตีว่านายทักษิณรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เพราะสิ่งที่จะยืนยันได้คือ รายงานการรักษาที่จะต้องส่งกลับไปยังกรมราชทัณฑ์ เพื่อเป็นการอนุญาตให้ทำการรักษาต่อ โดยมีลายเซ็นจากอธิบดีกรมราชทัณฑ์เซ็นให้อนุญาตรักษา 90 วัน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเซ็นให้รักษาได้ 120 วัน โดยในรายงานจะต้องเขียนให้ชัดเจนว่า เหตุผลในการต้องรักษาต่อจากภาวะอะไร แสดงให้เห็นความรุนแรงของโรคอย่างไรบ้าง ไม่ใช่การแสดงความคิดเห็นว่าควรรักษาต่อแบบที่กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์อยู่ในปัจจุบันนี้ ซึ่งมองว่า การอนุมัติให้สิทธิรักษาตัวเกิน 120 วันโดยไม่มีเหตุผลชัดเจน มองว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กำลังทำผิดมาตรา 157
ด้านนายนัสเซอร์กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่ 141 ที่กระบวนการยุติธรรมถูกนักการเมืองและข้าราชการบางคนช่วยเหลือนายทักษิณไม่ให้ถูกจองจำในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ และที่ผ่านมามีการถามมาตลอดว่า นายทักษิณ ป่วยด้วยโรคอะไรแต่ได้รับคำตอบว่า ป่วยด้วยอาการวิกฤต ซึ่งคำว่าวิกฤต คือสิ่งที่ช่วยให้ไม่ต้องนอนเรือนจำหรือไม่ ดังนั้นประชาชนที่รักความยุติธรรม ก็อยากจะเชิญชวนให้มาร่วมชุมนุมกับกลุ่ม คปท. และยืนยันว่า คปท.จะไม่ยอมให้ท่านมาหลอกพวกเราอีกแล้ว และวันนี้ต้องเอาข้อมูลที่เป็นจริงมาบอกกับประชาชน และจะรอความจริงที่ทำเนียบรัฐบาลใน 3 วันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ชุมนุมได้ใช้พื้นที่การชุมนุม ภายในลานของศาลกรมหลวงชุมพร และบนทางเท้า โดยไม่ได้ลงไปทำกิจกรรมบนถนนเพื่อกีดขวางการจราจร โดยมีการตั้งเวทีปราศรัยอยู่บริเวณถนนพระรามที่ 5 ใกล้กับสะพานชมัยมรุเชฐด้วย โดยจะทำกิจกรรมชุมนุมในวันแรกไปจนถึงเวลา 24.00 น. และจะปักหลักค้างคืน ไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม