ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา ผู้เชี่ยวชาญยุทธศาสตร์การเมืองการปกครองชั้นสูง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า
ล้มยุทธศาสตร์ชาติ เท่ากับทำลายชาติ
อยากมาบริหาร แต่อ้างไม่รู้จักยุทธศาสตร์ชาติ (เป้าหมายชาติ) ที่มหาอำนาจวางไว้ล่วงหน้า 50 ปี แถมจะล้มเลิกอีก
อันที่จริงแล้ว ยุทธศาสตร์ชาติคือ ยุทธวิธี ที่มี ศาสตร์ และ ศิลป์ ยุทธวิธี เป็นเทคนิค ใช้ยุทโธปกรณ์และหน่วยรบ กำลังพล ทางสงคราม การเมือง เศรษฐกิจ ธุรกิจ ในการเผชิญหน้ากับศัตรูและเอาชนะศัตรู
การเปลี่ยนแปลงปรัชญาและเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันถูกสะท้อนออกมาด้วยการเปลี่ยนแปลงยุทธวิธีทางทหาร ศาสตร์การทหารในปัจจุบัน ยุทธวิธีเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในการวางแผนสามระดับ ในเชิงการทหาร อันได้แก่ (1)แผนยุทธศาสตร์
(2)แผนยุทธการ
(3)แผนยุทธวิธี
ในเชิงธุรกิจได้แก่ (1)วิสัยทัศน์
(2)ภาระกิจ
การวางแผนระดับสูงที่สุด คือ ยุทธศาสตร์ “ศาสตร์” คือ การคิดวิเคราะห์และประเมินอย่างเป็นระบบ ใช้ตรรกะและเหตุผล “ศิลป์” คือ การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้สัญชาตญาณ และความรู้สึก สร้างวิศัยทัศน์ เป็นภาระกิจ
การจะล้มยุทธศาสตร์ชาติ จึงเท่ากับทำลายชาติ ที่มีต้นเหตุจากสติปัญญา เป้าหมายให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามที่ตนเอง และพรรคพวกกำหนด โดยอ้างแค่ตัวแปรตามอย่าง AI หรือเท็คโนโลยี ที่เป็นเพียงตัวแปรตามสถานการณ์ มิใช่ตัวแปรต้นของยุทธศาสตร์ของชาติ
เคยเตือนแล้วว่าสักวันหนึ่งเมื่อเขามีอำนาจจะต้องล้มเลิกยุทธศาสตร์ สถานการณ์ที่มาถึงวันนี้ก็เพราะว่า บางคนอยากได้ผลประโยชน์ อ้างจะได้เกิดความปรองดอง โดยไม่ทราบความลึกซึ้งในการเปลี่ยนแปลงการปกครองว่า นี่คือหลักคิดของ “มาลาปาร์เต” เทคนิคทำปฏิวัติ ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ที่มีหลักแรกเริ่มคือการแบ่งแยกศัตรู ให้ชิงอำนาจกันเองจากภายใน โดยใช้ผลประโยชน์เข้าล่อ สุดท้ายทำให้รัฐล้มเหลว
การยกเลิกยุทธศาสตร์ แล้วก็ฆ่ายกราชวงค์ จนเกิดการเปลี่ยนแปลงมาแล้วในยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 ทำให้ 1 ใน 3 ของโลกเปลี่ยนการปกครองใหม่ทั้งหมด
การยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ จึงเป็นการทำลายชาติอย่างเปิดเผย ที่มีหลัก Soft Power (ซอฟต์พาวเวอร์) การยึดอำนาจอย่างนิ่มนวล ที่จะจบด้วย “Hard Power” ที่จะใช้กำลัง ความรุนแรงในการจัดการ จึงไม่ต้องแปลกใจ ที่จะได้ยินวาทกรรม Soft Power (ซอฟต์พาวเวอร์) ควบคู่กับการยกเลิก“ยุทธศาสตร์ชาติ”
โชคดีประเทศไทยมีพระสยามเทวาธิราชคุ้มครอง จึงทราบเป็นอย่างดีว่าวันนี้ยังไงก็ต้องเกิด จึงได้เตรียมการรับมือกับสิ่งเหล่านี้ไว้แล้ว และผลของกรรม ที่เกิดจากการกระทำ จะลงมือด้วยตัวของมันเอง เอาผิดผู้กระหายอำนาจ ที่กระทำความเสียหาย ทำลายชาติ มิใช่เพียงติดคุกติดตาราง ถูประหารทางความคิด เท่านั้น ขั้นสิ้นเนื้อประดาตัวกันเลยทีเดียว
“ ถึงเวลาตาย วายชีวาวาท ทรัพย์และธาตุก็มิตกไปเมืองผี เกิดเป็นคนจงมุ่งทำแต่ความดี กลายเป็นผีตายไปใครก็ชม “
ดร.เทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา
29 ธันวาคม 2566