วันนี้ (24 ต.ค. 66) ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง นางสาวสุพรเพ็ญ วรโรจน์เจริญเดช มารดาของนายอัครกิตติ์ วรโรจน์เจริญเดช หรือเบนซ์ เรซซิ่งพร้อมเพื่อน ๆ เดินทางมาร่วมต้อนรับกลับบ้าน หลังศาลฎีกามีคำสั่งแก้ ให้ยกฟ้องในข้อหาสมคบค้ายาเสพติด ภายหลังรับโทษจำคุกในข้อหาฟอกเงินมาแล้วกว่า 4 ปี
นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า ตลอด 6 ปีที่ต่อสู้คดีมา ตนเองเสียเงิน และเวลา แต่อยู่ได้ด้วยความหวังว่าจะชนะคดี และได้ประกันตัว และยังเสียเงินกับคนไม่หวังดีที่เข้ามา เสียความน่าเชื่อถือ หลังมีข่าวไปคบค้าสมาคมผู้ค้ายาเสพติด ซึ่งตนเองก็ไม่อาจเปลี่ยนใจใครได้ และตอนนี้ศาลยกฟ้องแล้ว ก็ขอให้เคารพคำตัดสินของศาลด้วย
“ผมอยากจะถามว่ามีหน่วยงานไหน ที่จะสามารถชดใช้ ในสิ่งที่ผมสูญเสียไปได้ไหม สิ่งนี้มันเป็นแผลในใจผมมาตลอดระยะเวลา 6 ปี สิ่งที่ผมสูญเสียไปนี้ คือ ผมสูญเสียโอกาสในการเลี้ยงดูลูกชายคนเดียวของผม ผมไม่เคยมีโอกาสได้สอนลูกเดินสอนลูก หรือ ปั่นจักรยาน ไม่มีโอกาสสอนเล่นตะกร้อด้วยซ้ำ” นายอัครกิตติ์ กล่าว
นายอัครกิตติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับน้องเรซซิ่ง ตนเองไม่เคยให้มาเยี่ยม เพราะไม่อยากให้มาจดจำสิ่งเหล่านี้ หลังจากนี้จะกลับไปหาลูกที่บ้าน อยากใช้เวลากับครอบครัว และไปทานข้าวกัน ตอนนี้ยังไม่ได้วางแผนชีวิตใหม่ ต้องปรับตัวสักพักเพราะเหมือนว่าเพิ่งตื่นจากฝัน
“ผมเข้าใจดีว่าสิ่งที่ผมสูญเสียไป มันประมวลเป็นมูลค่าไม่ได้ แล้วไม่มีใครทำให้ผมย้อนเวลากลับไปได้ ซึ่งในวันนี้ในส่วนของคดีความขอให้จบสิ้นลงเท่านี้ แล้วผมก็จะได้กลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ อยู่กับครอบครัว และถ้าถามว่านิยามของการต้องมาติดคุกอยู่ในเรือนจำ สำหรับผมคิดว่า สูญเสียทุกสิ่งอันเป็นที่รัก นั่นคือสิ่งที่ผมสัมผัสได้ ผมอยู่กับความหวังสู้คดี หวังว่าจะได้กลับบ้านเมื่อไหร่ แต่เราก็ต้องสู้ถึงที่สุด” นายอัครกิตติ์ กล่าว
นายอัครกิตติ์ กล่าวว่า ตั้งแต่ผมเข้ามารอบนี้ 2 ปี 8 เดือน ผมไม่เคยร้องไห้เลย ผมต้องสู้ให้ถึงที่สุด วันนี้เป็นวันที่ผมรอคอยมาตลอดและดีใจที่สุดในชีวิต ขอบคุณทุกคน ที่ให้คำปรึกษา จนได้รับความยุติธรรม
ขณะที่ นางสาวสุพรเพ็ญ กล่าวว่า วันนี้ก็ลุ้นว่าจะได้ออกจากคุกหรือไม่ ก็เตรียมใจไว้หมดแล้ว ตอนนี้หัวใจแทบวาย ดีใจจนลืมทานข้าว