พรรคร่วมแตกแน่ ! ขู่ภูมิใจไทยเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด แลกเงินดิจิทัลฯ

11 พ.ค.2567 – นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส. นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊กว่า 9 เดือน ยังแก้ไม่ได้ 90 วัน จะแก้ได้หรือ?

หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งรื้อกฎกระทรวง แก้ไขให้ยาบ้า 1 เม็ดมีความผิด หลังเกิดปัญหาการปฏิบัติงาน และการตีความทางกฎหมาย และให้นำ “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 ให้ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพเท่านั้น หลังพบคดียาเสพติดพุ่ง 4-5 เท่า และขีดเส้นให้เห็นผลภายใน 90 วันนั้น

ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง และมีเสียงตอบรับจากทุกภาคส่วน เพราะปัญหายาเสพติด ทั้งยาบ้าและกัญชา มีระบาดไปทั่วทุกพื้นที่ มีทั้งผู้ค้าและผู้เสพเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก มีคนเกิดอาการหลอนยาและจิตเวช ก่อเหตุความรุนแรงทุกวัน นับว่าเป็นความล้มเหลวในการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ที่เคยประกาศเป็นนโยบายตอนหาเสียง และเป็นนโยบายของรัฐบาล ที่แถลงต่อสภาผู้แทนราษฎร

แต่เมื่อคุณเศรษฐาประกาศเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหายาเสพติด กำหนดให้เห็นผลภายใน 90 วัน จะรอดูว่าสามารถทำได้จริงตามที่ประกาศไว้หรือไม่ อยากให้สังคมได้เขียนไว้ข้างฝา หรือจดไว้ในสมุดบันทึกว่า ภายใน 90 วัน คือวันที่ 10 สิงหาคม 2567 รัฐบาลสามารถแก้ปัญหายาเสพติดให้ลดลงได้หรือไม่

ส่วนการประกาศนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท5อีกครั้งหนึ่งนั้น ก็ได้รับเสียงตอบรับสนับสนุนจากสังคมเช่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาหลังจากมีการปลดล็อคกัญชา ให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ผลที่เกิดขึ้นไม่ได้มุ่งเน้นกัญชาทางการแพทย์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกัญชาด้านสันทนาการ ทำให้ประชาชนและเยาวชนเข้าถึงกัญชาได้ง่ายมาก จึงก่อให้เกิดปัญหาสังคมเป็นทวีคูณ

ถ้าหากนำกัญชาเข้าสู่บัญชียาเสพติด ประเภท 5 ทำเสร็จภายใน 90 วัน ก็จะเป็นการดี แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือมีแรงเสียดทานจากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล คุณเศรษฐาจะกล้าเดินหน้าชนหรือไม่ การอ้างถึงประโยชน์ของประชาชนใครๆก็อ้างได้ แต่ประโยชน์ทางการเมืองของพรรค ไม่มีพรรคการเมืองไหนยอมได้ เพราะนโยบายกัญชาเสรี คือนโยบายเรือธงของพรรคภูมิใจไทย ไม่ต่างอะไรกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตของพรรคเพื่อไทย