7 ม.ค.2567- นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวของสว.ที่จะเข้าชื่อกันขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 153 ว่า เห็นด้วยอย่างยิ่งที่สว.จะเข้าชื่อกันขอเปิดอภิปรายรัฐบาลทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพราะผ่านมาแล้วสี่เดือนแต่รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ยังไม่ได้ทำงานอะไรที่เป็นผลงานรูปธรรม จึงควรที่สว.จะใช้สิทธิ์ดังกล่าวตามรัฐธรรมนูญอภิปรายทั่วไปรัฐบาลเพื่อเป็นการให้ความเห็นและข้อเสนอแนะต่อรัฐบาล
นายสมชายระบุว่า ประเด็นที่สว.จะมีการอภิปรายคาดว่าจะมีหลายเรื่องแต่เรื่องหลักๆ ก็มีเช่น การดำเนินนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต เพราะที่ผ่านมาจนถึงขณะนี้เสียเวลาไปสี่เดือนแต่รัฐบาลไม่ได้ทำนโยบายดังกล่าวออกมาอย่างที่เคยหาเสียงไว้ และเรื่องนี้ดูแล้ว ไปต่อลำบาก เพราะเป็นการดำเนินนโยบายที่สุ่มเสี่ยงขัดกฎหมาย ไปต่อยาก เพราะอย่างที่รัฐบาลจะอ้างว่าเป็นเรื่องเร่งด่วน ก็ไม่เข้าข่าย เพราะหากเร่งด่วนจริง ก็ต้องออกพระราชกำหนดแต่รัฐบาลไม่กล้าทำเพราะรู้ดีว่า ทำไม่ได้
“เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต จึงเป็นปัญหาที่สว.จะต้องอภิปรายเพื่อให้รัฐบาลยกเลิกการดำเนินการ โดยเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต มีคณะกรรมาธิการเข้ามาศึกษาหลายคณะ ก็จะนำแนวทางการศึกษามาอภิปรายเพื่อเสนอต่อรัฐบาล”นายสมชายกล่าว
นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ อีกเรื่องที่จะมีสว.อภิปรายกันก็คือ กรณีของนายทักษิณ ชินวัตร นักโทษที่ตอนนี้อยู่ที่รพ.ตำรวจ ซึ่งกรณีของทักษิณ เป็นปัญหาใหญ่มาก และเป็นเรื่องท้าทายกระบวนการยุติธรรม จะมีสว.ลุกขึ้นอภิปรายแน่นอน เพราะกรณีของทักษิณ เป็นการทำลายความศรัทธา และความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม เป็นเรื่องเสียหายมาก เพราะหากประเทศไหน คนไม่มีความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม ประเทศก็จะล่มสลาย ก็จะมีสว.อภิปรายเรื่องทักษิณกันอย่างจริงจัง”
นายสมชายกล่าวว่า นายทักษิณ เมื่อกลับมาแล้ว อาศัยช่องลอดทางกฎหมาย ไม่ยอมเข้าสู่ระบบของกระบวนการยุติธรรม และกรมราชทัณฑ์ ไม่เข้าไปอยู่ในเรือนจำเลย แต่ไปนอนรพ.ตำรวจ ขณะที่นักโทษสองแสนกว่าคน ไม่ได้รับสิทธิ์แบบเดียวกันกับทักษิณ เป็นเรื่องเสียหายมาก สว.จะลุกขึ้นอภิปรายรัฐบาลเรื่องนี้ เพราะหากปล่อยไว้แบบนี้ คนคิดทำทุจริตคอรัปชั่นก็ไม่กลัวอะไรแล้ว เพราะคดีทักษิณเป็นคดีทุจริต ต่อไปใครคิดทุจริต มีอำนาจรัฐในมือ มีส.ส.ในมือ ก็ไม่ต้องกลัวติดคุกกันแล้ว เรื่องทักษิณ ต้องอภิปรายกันจริงจังว่ารัฐบาลมีหน้าที่ต้องควบคุมกำกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมเสมอภาค ไม่ใช้อ้างอะไรต่างๆ แต่ฟังไม่ขึ้น จนเสื่อมทั้งระบบ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ที่สว.จะมีการอภิปรายกันก็เช่น การดำเนินนโยบายSoft power ที่สว.มีการศึกษาเรื่องนี้อยู่ รวมถึงเรื่องอื่นๆ เช่น การที่รัฐบาลจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะให้มีการทำประชามติ การแก้ปัญหาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การบริหารนโยบายต่างประเทศ เป็นต้น
สำหรับการขออภิปรายดังกล่าว เป็นการเคลื่อนไหวของสว.ที่จะขอใช้สิทธิ์ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153ที่บัญญัติว่า สมาชิกวุฒิสภาจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา มีสิทธิเข้าชื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภาเพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ