2 กุมภาพันธ์ 2567 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวด้วยน้ำเสียงมีอารมณ์ ถึงประเด็นที่นายยศวริศ ชูกล่อม หรือ เจ๋ง ดอกจิก กล่าวในการแถลงข่าวอ้างไม่ได้รีดทรัพย์อธิบดีกรมการข้าว พร้อมยืนยัน ร.อ.ธรรมนัส สั่งให้ไปช่วยเคลียร์ ว่า ไม่ขอพูดถึงคนๆนี้แล้ว โดยโทรศัพท์เครื่องนี้เวลาจะเจอใคร หรือรับสายใคร สื่อมวลชนจะรู้หมด
พร้อมถามย้อนสื่อว่าเอาเบอร์ไปให้เขาหรือเปล่า และบอกต่อว่านายเจ๋ง โทรมา ตนจึงรับสายและตนเป็นเจ้ากระทรวงอยู่ จะมาทำอะไรในกระทรวงนี้ แต่ไม่เข้าห้องตน ไปเข้าห้องใคร และยืนยันไม่เคยเจอนายเจ๋งในทำเนียบรัฐบาล
ก่อนชี้ไปที่ตึกข้างๆฝั่งซ้ายมือ แล้วบอกว่าเจอกันตรงนี้ ตอนนั้นกำลังแถลงข่าวอยู่ เจอหน้าประตู หน้าบันได จึงถามว่ามาทำอะไร นายเจ๋งก็ตอบว่ามาติดตามเรื่องร้องเรียน จึงบอกว่าเรื่องนี้ขอไม่ยุ่ง ไปคุยกันเองเลย เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาอยู่ตรงนี้ ไม่มาไหว้เจ้ากระทรวง เจ้าที่เจ้าทางก็อย่ามาลบหลู่
ส่วนจะเป็นเรื่องไหนที่นายเจ๋ง กำลังติดตามและร้องเรียนอยู่ ตนไม่อยากรู้ เพราะตนรู้ว่าเวลาจะใช้งานใครต้องรู้ อย่างกระทรวงเกษตรฯมีปลัดจนถึงข้าราชการ ทำไมถึงไม่ใช้ ไม่อย่างนั้นจะมีไว้ทำไม ส่วนเรื่องนี้สื่อก็ต้องคิดว่าอย่าชี้นำ เพื่อให้เอาไปซัดคนนั้นคนนี้ เมื่อตนเป็นเจ้ากระทรวงอยู่ตรงนี้ และไม่อยากใช้คำว่าตบทรัพย์ เงินหลักล้าน หรือแค่ 1.5 ล้าน มาขอกันกินยังง่ายกว่า
“ขอย้ำว่าเรื่องนี้ผมไม่ได้เสียหาย แต่ต้องดูข้อเท็จจริง และมีเหตุจำเป็นอะไรที่จะต้องใช้คนพรรค์นี้ไปเคลียร์ และขอถามกลับว่า “ผมต้องใช้คนแบบนี้ไปเคลียร์เหรอ เขามีหน้าที่ในกระทรวงเกษตรเหรอ และอยู่ในฝ่ายตรวจสอบหรือไม่ ที่ต้องไปเคลียร์คนแบบนี้เพียงแต่ผมตัดความรำคาญว่าอย่ามายุ่งกับผม ผมไม่ยุ่งเรื่องพวกนี้ คุณมีหลักฐานอะไรก็ว่ามา เมื่อร้องมาแล้วก็ตั้งกรรมการสอบทุกคน” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวอีกว่า คนพรรค์นี้แค่ฟังจากคลิปเสียง และต้องฟังให้จบ เมื่อลูกน้องเดือดร้อนก็มาปรึกษาทุกเรื่อง และสังเกตดูว่ายุคนี้อธิบดีของทุกกรม มีความหวังว่านายของตนเองจะพึ่งพิงได้ ในเมื่อลูกน้องโดนรังแก อยากถามว่า แล้วคุณเป็นหน่วยงานอะไรถึงมาตรวจสอบ ไม่ใช่หน้าที่ของคุณ หากจะร้องให้ไปที่องค์กรอิสระ ไม่ต้องมาร้องที่รัฐมนตรีกระทรวงเกษตร และจะมาเคลียร์ หรือแม้แต่จะใช้คุณทำงานเพื่ออะไร ซึ่งตรรกะแค่นี้คิดได้ง่าย แต่สื่อก็ชอบเอาไปเป็นประเด็น ถามชี้นำ
ส่วนที่นายเจ๋ง ยกพานเหนือหัวสาบานนั้น ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า คนเราหากจะพูดอะไร สิ่งที่พูดกับหลักฐานที่ตำรวจมีมันหนังคนละม้วน ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัว และไม่ขอฝากอะไรไปถึงนายเจ๋งที่ได้เอ่ยชื่อตนระหว่างแถลงข่าว เพราะตนเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง แต่อยากฝากสื่อมวลชนให้นำเสนอข่าวอย่าให้คุณภาพในความเป็นสื่อลดลง ให้เครดิตใครนำเสนอทุกช่อง และตนก็ติดตามดูข่าวนี้ทุกช่องทาง และได้รับรายงานจากฝ่ายที่รับผิดชอบในกระทรวงแต่เรื่องที่เกิดประโยชน์กับประชาชนไม่ค่อยนำเสนอ เช่น ผลงานและการทำงานของกระทรวงเกษตรที่สำคัญๆ อยากให้สื่อให้ความสนใจเพราะเป็นความเดือดร้อนของเกษตรกร แต่ปัจจุบันสื่อให้พื้นที่ในการนำเสนอน้อยมาก แต่กลับนำเสนอประเด็นที่เป็นขยะสังคม
ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า หลังจากนี้พวกนักร้องทั้งหลายอาจเกรงกลัว ไม่กล้าเรียกรับเงินหรือไม่ ตนไม่ทราบเพราะหากคนที่ไปร้องไปเคลียร์เงินแบบนั้นผิด แต่คนที่มั่นใจว่าไม่ผิดก็พร้อมสวนหมัดชก เหมือนกัน ส่วนจะมีใครไปหักหลังนายเจ๋งหรือไม่ ตนไม่รู้ รวมถึงที่บอกว่ากรมการข้าวมีงูเห่า ก็ไม่รู้ ที่นี่ไม่มีงูเห่า แต่มีมังกร และขอไม่ให้ความสำคัญกับคนที่เป็นขยะสังคม และขอยืมคำพูดของรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) ที่บอกว่า ใครพูดอะไรก็จะได้แบบนั้น จะสาบานอะไร ต้องรู้ตัวว่าทำอะไรอยู่ จะดึงคนนั้น คนนี้ไปพาดพิงกระทรวงเกษตร เป็นผู้เสียหาย และจะเป็นคนจัดการกับคนนอกรีดแบบนี้ได้ และวันดีคืนดีไปฟังคนที่ถูกเจ้าหน้าที่ของรัฐ ที่บังคับใช้กฎหมายลงโทษคงไม่ใช่เรื่อง เรื่องนี้ เป็นเรื่องใหญ่ โทษทางอาญาหนัก เป็นเจ้าหน้าที่รัฐไปเรียกรับผลประโยชน์
ทั้งนี้ โทษของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ คือประหารชีวิต จึงอย่ามาทำเป็นเล่น และอยากขอให้สื่อ ให้เกียรติกระทรวงเกษตรฯ ที่กำลังทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปบั่นทอนความตั้งใจของผู้บริหารกระทรวง และหากสื่อจะให้เครดิตอะไรในสังคม ควรสรรเสริญคนที่ดี มีประโยชน์ต่อบ้านเมือง อะไรที่เป็นขยะสังคม ไม่ควรไปให้เกียรติ
รมว.เกษตรฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตามที่ร้องเรียนมา หากถึงมือตน ในฐานะเจ้ากระทรวง ก็พร้อมสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนหมด หากร้องเรียนไปองค์กรอิสระก็ดำเนินงานไปตามขั้นตอน วิธีการร้องเรียน หากต้องการรักษาผลประโยชน์ของบ้านเมือง ควรทำให้ถูกที่ถูกทาง ไม่ใช่เก็บส่วยตั้งแต่แม่ฮ่องสอนยันกรุงเทพ มันไม่ถูก ขอให้ฟังเสียงของเจ้าหน้าที่ ผู้บังคับใช้กฎหมาย อย่าไปฟังเสียงคำแก้ตัวของใครบางคน มันทำเป็นขบวนการ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องเหล่านี้มีแบ็คอัพดีหรือไม่ ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้าละเมิดกฎหมายทั้งที่รู้ว่ามีโทษหนัก
รมว.เกษตรฯ กล่าวอีกว่า ตนรู้ว่าเป็นใคร แต่ขอไม่พูด และในวงการนี้ ในฐานะที่ตนผ่านอะไรมาเยอะ มันเห็นกันหมดว่าใครทำอะไร ใครที่ทำก็เห็นไส้เห็นพุงกัน จึงเตือนว่าอย่าทำและสิ่งสำคัญอย่ามาทำกับลูกน้องตน
เมื่อถามว่าเคยเตือนนายเจ๋งหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า ไม่เคยเตือน เพราะไม่ใช่หน้าที่ หน้าที่ของตนคือดูแลผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่ให้ทำผิดกฎหมาย เมื่อคนไม่ได้ทำผิดกฎหมายก็ต้องปกป้องเขา อย่าโยนสิ่งที่ทำไปแล้ว และถูกดำเนินคดี แล้วไปสาดโคลนใส่คนอื่น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง นักเลงเขาไม่ทำกัน เวลานี้เครือข่ายของคุณ ไม่ว่าจะที่ จ.อุตรดิตถ์ หรือที่ไหน ตำรวจรู้หมดแล้ว ไม่ว่าจะโทรศัพท์ที่ไหนตำรวจรู้หมดแล้วว่าติดต่อ รายงานใคร
“ให้สื่อติดตามต่อว่าไม่ต้องสงสัยอะไรในกระทรวงเกษตรฯ และไม่ทราบว่ามีการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกัน คนตบทรัพย์จะมาเกี่ยวอะไรกับเรื่องการเมือง ส่วนที่บอกว่าเป็นการโค่นอำนาจเก่านั้น ก็ไม่เกี่ยวกัน อย่าเอาเรื่องความผิดมาผูกกับการเมือง โดยมารยาทแล้ว เราอยู่พรรคร่วมรัฐบาล ไม่ควรไปยุ่งกับกระทรวง ที่พรรคร่วมรัฐบาลดูแลอยู่ ผมได้รับรายงานทางลับว่าพวกที่เป็นหนอนบ่อนไส้ หรือเกลือเป็นหนอน นอกจากจะไม่มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองในชีวิตราชการแล้ว ผมจะเล่นโทษอาญาให้หนัก ตอนนี้กำลังสืบสวนสอบสวนอยู่ พวกที่เอาความในไปขาย เป็นเรื่องจริงบ้าง ไม่จริงบ้าง เพื่อเลื่อยขาเก้าอี้กัน อย่าทำในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีกระทรวงเกษตร และรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯไม่มีใครเลื่อยขาเก้าอี้ได้ อย่าคิดทำร้ายเพื่อนร่วมงานด้วยวิธีสกปรก วันนี้ตนขอพูดครั้งเดียวแล้วจบ” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
-005