ข่าวประจำวัน » ด่วน ยกฟ้องพันธมิตร ! บุกสนามบิน ปรับแกนนำคนละ2หมื่นละเมิดพรก.ฉุกเฉิน

ด่วน ยกฟ้องพันธมิตร ! บุกสนามบิน ปรับแกนนำคนละ2หมื่นละเมิดพรก.ฉุกเฉิน

17 January 2024
456   0

วันนี้(17 ม.ค.) ศาลอาญาพิพากษาปรับแกนนำพันธมิตรฯ ชุมนุมที่สนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ จำเลย “จำลอง” จำเลยที่ 1 กับพวกจำเลย 2-5 , 7-13 และ 31 ผิดฐานบุกรุก-ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ปรับคนละ 2 หมิ่นบาท ไม่ผิดก่อการร้าย- ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน ส่วนจำเลยอื่นยกฟ้อง

ที่ห้องพิจารณาคดี 801 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 10.00 น วันนี้ (17 ม.ค.) ศาลนัดอ่านคำพิพากษาคดีกลุ่มพันธมิตรฯ บุกสนามบินดอนเมืองหมายเลขดำ อ. 973/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ฟ้อง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ กับพวกรวม 28 คน ร่วมกันเป็นจำเลยในความผิด ฐานเป็นกบฎ ก่อการร้ายฯ

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 24 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2551 พวกจำเลยได้ร่วมกันโฆษณาชักชวนให้ประชาชนมาร่วมกันชุมนุมใหญ่โดยกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆ และปิดล้อมอาคารวีไอพี.ท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งอยู่ในความครอบครองของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ผู้เสียหายที่ 1 ซึ่งเป็นของบริษัทท่าอากาศยานไทยจำกัด(มหาชน)หรือ ทอท.ผู้เสียหายที่ 2 และทำลายทรัพย์สินเสียหายเป็นเงิน 627,080 บาท แล้วนำจานรับสัญญาณของพวกจำเลยไปติดตั้งใกล้เครื่องรับสัญญาณเรดาร์ ของ บริษัท วิทยุการ บินฯผู้เสียหายที่ 3 และทำการปิดกั้นสะพานกลับรถของกรมทางหลวงผู้เสียหายที่4 ตรวจค้นตัวเจ้าหน้าที่ของบริษัท การบินไทยฯ ผู้เสียหายที่ 5 ปิดกั้นการบริการสื่อสารบริษัท ไปรษณีย์ไทยฯ ผู้เสียหายที่ 6 และร่วมกันขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายบุคคลและทรัพย์สิน เพื่อกดดันให้นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ นายกรัฐมนตรี ขณะนั้นลาออก เหตุเกิดที่แขวง-เขตดอนเมือง กทม. โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษพวกจำเลยตามความผิดด้วย พวกจำเลยให้การปฏิเสธ

โดยในวันนี้จำเลยเดินทางมาศาล เช่น นายสนธิ ลิ้มทองกุล ,นายสุริยะใส กตะศิลา ,นายสมศักดิ์ โกศัยสุข,นายพิภพ ธงไชย ,นายรัชต์ชยุตม์ หรืออมร ศิริโยธิน ,นายพิชิต ไชยมงคล ,น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก ,นายสันธนะ ประยูรรัตน์ เเละจำเลยคนอื่นๆเดินทางมาศาล ส่วน พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสินแพทย์กาญจนบุรี จ.กาญจบุรี ส่วนนายเทิดภูมิ ใจดี รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จ.นนทบุรี

ขณะที่มีมวลชนกลุ่มพันธมิตรฯ จำนวนมากเดินทางมาให้กำลังใจจำเลยด้วย

เมื่อถึงเวลานัด ศาลดได้พิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยที่ 1-5 7-13 และ 31 มีความผิดฐานบุกรุกฯ และข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เป็นความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่เป็นบทหนักสุด ให้ลงโทษปรับจำเลยที่ 1-5 7-13 และ 31 คนละ 20,000 บาท ยกฟ้องข้อหาก่อการร้าย,ข้อหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานฯ และข้อหาอื่น

ภายหลังนายประพันธุ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ภายหลังฟังคำพิพากษา น้อมรับในคำพิพากษาของศาลและยืนยันว่าการชุมนุมในครั้งนั้นเป็นการชุมนุมโดยสันติ สงบ ปราศจากอาวุธ และยังบอกว่า คดีนี้อัยการยื่นฟ้องหลายข้อหา เช่น ข้อหาบุกรุก ผิด พรก.ฉุกเฉิน ข้อหาก่อการร้ายชุมนุมโดยก่อการวุ่นวาย ข้อหาทำร้ายเจ้าพนักงาน ต่อสู้ขัดขวางการปฎิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงาน ข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว เป็นต้น ซึ่งตนมองว่าการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ และชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยศาลเห็นว่า การชุมนุมของกลุ่มบัณฑิตสืบเนื่องมาตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภา 2551 โดยมีจุดมุ่งหมายคือการคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่จะทำให้การทำผิดการคอรัปชั่นของนักการเมืองหายไป ซึ่งการชุมนุมในครั้งนั้นแม้จะเป็นพื้นที่สนามบินดอนเมืองแต่ เป็นการชุมนุมในพื้นที่สาธารณะไม่เกี่ยวข้องกับการบินที่ไม่กระทบกับประชาชน และไม่มีการทำร้ายผู้โดยสารรวมถึงพนักงาน รวมถึง การชุมนุมดังกล่าวไม่มีการพกอาวุธและก่อจราจลวุ่นวาย ถึงแม้จะเกิดความไม่สะดวกแก่ประชาชนบ้างก็เป็นเรื่องปกติของการชุมนุม ศาลจึงมองว่าการชุมนุมโดยรวมทั้งหมด เป็นไปด้วยความสงบปราศจากอาวุธอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ จึงไม่เป็นความผิดในฐานก่อการร้ายรวมถึงข้อหาอื่นๆยกเว้นฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน และ ข้อหา ข้อบุกรุก ส่วนข้อหาก่อการร้ายที่ยกฟ้องนั้นเนื่องจากการนั้นไม่มีการใช้อาวุธทำลาย ระบบคมนาคมขนส่งหรืออากาศยาน จึงถือว่าไม่เข้าข่ายความผิด

ในส่วนข้อหาบุกรุกซึ่งสถานที่ดังกล่าวมีการใช้เป็นการประชุม ครม.เป็นการชั่วคราวของรัฐบาลขณะนั้น ซึ่งช่วงที่พันธมิตรเคลื่อนขบวนเข้าไป ได้มีเข้าไปในห้องประชุมที่ใช้ในการประชุมจริง ศาลจึงมองว่า เป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ จึงเข้าข่ายความผิดฐานบุกรุก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ พล.ต.จำลอง จำเลยที่ 1 และ นายเทิดภูมิ จำเลยที่ 15 ป่วยรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ศาลอาญาจึงใช้อ่านคำพิพากษาโดยใช้วิธีประชุมผ่านระบบจอภาพไปยังโรงพยาบาลดังกล่าว 

สำหรับรายชื่อจำเลยทั้ง 32 รายประกอบด้วย
1)พล.ต.จำลอง ศรีเมือง
2) นายสนธิ ลิ้มทองกุล
3) นายพิภพ ธงไชย
4) นายสมศักดิ์ โกศัยสุข
5) นายสุริยะใส กตะศิลา
6) นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ (เสียชีวิต)
7) นายศิริชัย ไม้งาม
8) นายสำราญ รอดเพชร
9) นางมาลีรัตน์ แก้วก่า
10) นายสาวิทย์ แก้วหวาน
11) นายสันธนะ ประยูรรัตน์
12) นายชนะ ผาสุกสกุล
13) นายรัชต์ชยุตม์ หรืออมรเทพ หรืออมร ศิริโยธินภักดี หรืออมรรัตนานนท์
14) นายประพันธุ์ คูณมี (วุฒิสมาชิก)
15) นายเทิดภูมิ หรือเกิดภูมิไท ใจดี
16) น.ส.อัญชะลี หรือปอง ไพรีรัก
17) นายพิชิต ไชยมงคล
18) นายบรรจง นะแส
19) นายสุมิตร นวลมณี
20) นายพิเชฏฐ พัฒนโชติ
21) นายสมบูรณ์ ทองบุราณ
22) นายอธิวัฒน์ บุญชาติ
23) นายจำรูญ ณ ระนอง
24) นายแสงธรรม หรืออาร์ท ชุนชฎาธาร
25) นายไทกร พลสุวรรณ
26) นายสุชาติ ศรีสังข์
27) นายอำนาจ พละมี
28) พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ
29)นายกิตติชัย หรือจอร์ส ใสสะอาด
30)นายเกรียงศักดิ์ หลิวจันทร์พัฒนา
31)บ.เอเอสทีวี (ประเทศไทย) จำกัด