กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย หรือ คปท. นำโดย นายพิชิต ไชยมงคล พร้อมแกนนำ จุดธูปพร้อมนำเครื่องบวงสรวง อาทิ กับข้าว ผลไม้ ไข่ต้ม ไก่ต้ม น้ำดื่ม และสุรา ถวายแก่อนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรฯ หรือ เสด็จเตี่ย เพื่อเอาฤกษ์เอาชัย ก่อนจะเริ่มตั้งเวที และชุมนุมเวลา 15.00 น. เป็นต้นไป โดยพิธีบวงสรวงใช้เวลาประมาณ 5 นาที
นายพิชิต ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า คปท. ยืนยันที่จะติดตามตรวจสอบกรณีที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่ในเรือนจำ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการประกาศว่า จะมีวันที่การชุมนุมในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อเรียกร้องให้มีการดำเนินการนำ นายทักษิณ กลับสู่เรือนจำ รวมถึงตรวจสอบดำเนินการกับข้าราชการที่เข้าข่าย ร่วมกันการกระทำผิด นำ นายทักษิณ ออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ โดยยืนยันว่าจะเป็นการปักหลักชุมนุมยาว ไม่มีกำหนด เพื่อให้ทราบถึงความชัดเจน โดยระหว่างการชุมนุม จะมีการไปติดตามตรวจสอบกับเรื่องที่เคยไปยื่นไว้ยังหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กรมราชทัณฑ์กระทรวงยุติธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งคาดว่าจะเป็นในช่วงสัปดาห์หน้า จะไปติดตามสอบถาม เนื่องจากกรมราชทัณฑ์เคยออกแถลงการณ์ว่า มีตัวแทนจากผู้ตรวจการแผ่นดิน ไปตรวจสอบ นายทักษิณ ยังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นั้นออกมาชี้แจง
เมื่อถามว่ามีหน่วยงานใดได้ตอบรับกลับมาแล้วหรือไม่ นายพิชิต กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มี แม้ว่าจะมีการทำหนังสือถามไปยังกรมราชทัณฑ์รายรอบ ก็มีแต่เพียงคำชี้แจงว่าเป็นไปตามระเบียบ ซึ่งทาง คปท.มีการตั้งข้อสังเกต ว่าเป็นดำเนินการที่ผิดระเบียบตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค. 2566 ดังนั้นการอ้างระเบียบช่วงหลัง เป็นเพียงข้ออ้าง เพราะไม่มีแพทย์ตรวจอาการนายทักษิณตั้งแต่ต้น
ส่วนปริมาณของมวลชนที่จะมาร่วมชุมนุมในวันนี้ ก็ได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมากในต่างจังหวัด คาดว่าจะมีมากกว่าในวันที่ 11-13 สิงหาคมที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงที่พัก คปท. เดินทางไปยังหลายจังหวัดก็ได้รับเสียงตอบรับว่าจะเดินทางเข้ามาร่วมชุมนุมเย็นนี้ โดยเฉพาะอย่างการล่ารายชื่อ 20,000 รายชื่อ
ส่วนจะมีการยกระดับการชุมนุมหรือไม่ หากไม่บรรลุตามวัตถุประสงค์ นายพิชิตกล่าวว่า จะต้องหารือกันต่อแต่ที่แน่ๆ จะปักหลักยาวไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีความชัดเจน หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยไม่ตอบรับ ก็ต้องวัดกันไปอีกข้าง เนื่องจากประชาชนพร้อมที่จะชุมนุมอยู่ที่นี่ ส่วนบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐมีเพียงรถบรรทุกหกล้อที่เตรียมนำอุปกรณ์สำหรับทำฐานเวที และเครื่องขยายเสียง มาเตรียมที่จะตั้งเวทีช่วงเวลา 15:00 น. โดยกลุ่มได้ขออนุญาตจากสน.นางเลิ้ง ปักหลักค้างคืนไว้เป็นเวลา 30 วัน
ขณะที่บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้ง บางส่วน เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัย แต่ยังไม่ปิดทางเข้าออกเช่นเดียวกับบริเวณถนนพิษณุโลกบริเวณแยกพณิชยการพระนครก็ยังไม่มีการปิดถนนหรือนำแนวรั้วมาตั้งปิดการจราจรแต่อย่างใด
โดยทีมข่าวได้ไปพูดคุยสอบถามกับตำรวจที่มาคอยยืนสังเกตการณ์อยู่บริเวณใกล้เคียงบอกว่า ทางกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการขออนุญาตการชุมนุม ซึ่งหากมีมวลชนเดินทางมาร่วมชุมนุมจำนวนมากก็อาจจะต้องขอใช้พื้นที่ช่องจราจรหนึ่งช่องทางเนื่องจากจะต้องมีการปักหลักค้างคืนโดยทุกอย่างยังคงทำตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.