ข่าวประจำวัน » เศรษฐกิจ » #ขั้นประหารชีวิต ! 6 ตร.ห้วยขวางรีดเงินนักท่องเที่ยวจีน โทษแรง พลิกลิ้นกลับคำให้การ

#ขั้นประหารชีวิต ! 6 ตร.ห้วยขวางรีดเงินนักท่องเที่ยวจีน โทษแรง พลิกลิ้นกลับคำให้การ

2 February 2023
317   0

   2 ก.พ.2566 – ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยถึงการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ที่ตั้งด่านรีดดาราสาวไต้หวัน จำนวน 27,000 บาท ว่า เบื้องต้นทั้ง 6 คนยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เราก็ไม่หนักใจ เพราะทาง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงมาทำคดีตั้งแต่เริ่มแรก เรามีพยานหลักฐานที่แน่นหนาพอสมควร ประกอบกับวานนนี้ (1 ก.พ.) พยานชาวสิงคโปร์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมี

ผู้สื่อข่าวถามว่า เบื้องต้นในชั้นสืบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวให้การรับสารภาพ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าในชั้นสืบสวนให้การรับสาภาพ แต่จริงๆแล้วเรามีพยานหลักฐานซึ่งมากกว่าคำรับสารภาพ เรามีภาพวงจรปิดของภาคเอกชนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ได้ แต่นี้เป็นหลักฐานสำคัญไม่สามารถเปิดเผยได้ ในวันนี้อยู่ในขั้นตอนการสอบปากคำแต่ละปากเบื้องต้นให้การปฏิเสธ ส่วนการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นข้อกล่าวหาหนัก ม.157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ม.149 เป็นเจ้าพนักงานเรียกรับทรัพย์สิน โทษสูงสุดถึงประหารชีวิต

ส่วนที่แจ้งข้อกล่าวหาเพียง 6 คน เพราะ 1 คนมีเหตุต้องออกไประงับเหตุส่งเสียงดังที่ซอยรัชดาซอย 10 ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ จากการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้นเขาจึงไม่ถูกดำเนินคดี แต่ยังคงแจ้งข้อหา 157 เพราะมีหลายชื่อในด่าน แต่ข้อหา 149 ก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน แต่ถ้าพยานหลักฐานไม่จบแค่นี้ ถ้าถึงใครก็ต้องดำเนินคดีต่อ หลังจากแจ้งข้อหาเสร็จจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาทุจริตประพฤติมิชอบกลางตลิ่งชันในวันนี้

ถามต่อว่าพยานชาวสิงคโปร์ชี้ตัวตำรวจมากกว่า 1 คน หรือไม่ เขาตอบว่ารายละเอียดอยู่ในสำนวน เขาชี้ได้เพียงบางคน แต่วันนี้เราดำเนินคดีได้มากกว่าที่ผู้เสียหายชี้ยืนยัน ซึ่งพยานคนดังกล่าวมาให้การที่เมืองไทยเป็นประโยชน์ทำให้การสืบสวนสอบสวนง่ายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะข้อหา 149 โทษถึงประหารชีวิต ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มั่นใจเราต้องทำอย่างรอบคอบรัดกุม ถ้าไม่มั่นใจเราไม่แจ้งข้อหาหรือแจ้งตามความกดดันใดๆ ด้าน ผบช.น.ก็มาควบคุมการปฏิบัติด้วยตัวเองทั้งคืน มีความมั่นใจในพยานหลักฐาน ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือกันเด็ดขาด ถ้ามีการช่วยเหลือคงไม่มีการแจ้งข้อหาเกือบทั้งชุด

ผบก.สส.บช.น. กล่าวต่อว่า ที่ล่าช้าในการแจ้งข้อหาเพราะกล้องที่เราได้มาต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะต้องได้รับความร่วมมือจากเอกชน ที่ชัดเจนเห็นประมาณ 6 คน ส่วนกล้องที่ส่งติดหมวกหรือหน้าอกของตำรวจที่ตั้งด่านไปกู้ที่เท่าที่ทราบ พฐ.ส่งหลักฐานมาแล้วแต่รายละเอียดอยู่ในสำนวนไม่เข้าไปก้าวล่วง เราเดินข้ามกล้องนั้นไปแล้ว เพราะเรามีพยานหลักฐานที่มีส่วนสำคัญให้วันนี้ดำเนินคดีได้ อย่างไรก็ตามถ้ามีคนมาแจ้งความเพิ่มถูกตำรวจกลุ่มนี้กระทำในลักษณะเดียวกันก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่ม ต่างกรรมต่างวาระ แต่ขณะนี้ยังไม่มี

เมื่อถามถึงผู้ต้องหาทั้งหมดมีอาการเป็นเช่นไร เขาตอบว่า เครียดมาก ถามต่อถึงประเด็นตำรวจตั้งด่านรีดเงินส่งให้นครบาล เขาตอบว่า ผมมีหน้าที่สืบสวน ไม่ได้มีหน้าที่ตั้งด่าน