ข่าวประจำวัน » ขัดแย้งบาน ! ภูมิใจไทย ฟาดกลับ รอเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด

ขัดแย้งบาน ! ภูมิใจไทย ฟาดกลับ รอเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด

11 May 2024
196   0

11 พ.ค.2567 – นายศุภชัย ใจสมุทร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) กล่าวถึงกรณีพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม แสดงความไม่เห็นด้วยในการใช้กัญชาเชิงเศรษฐกิจว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีตประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ)กัญชากัญชง ขอชี้แจงว่านโยบายรัฐบาลชุดปัจจุบันเขียนไว้ชัดเจนว่า รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ และสุขภาพ เพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็ให้การรับรองเอาไว้ต่อรัฐสภา ดังนั้นการดำเนินการที่ดีที่สุดในขณะนี้คือการออกกฎหมายมาควบคุมการใช้กัญชา อย่างถูกต้อง และได้มีการเสนอกฎหมายเพื่อควบคุมการใช้กัญชากัญชง ในสภาผู้แทนราษฎร

นายศุภชัย กล่าวต่อว่า การใช้กัญชา ในประเทศไทย มีการกำหนดเอาไว้ชัดเจนแล้วว่าการนำกัญชา กัญชง มาใช้ ปริมาณสารสกัดจะต้องมี THC ไม่เกิน 0.2 % ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสหประชาชาติ และหลายประเทศทั่วโลกดำเนินการตามนี้ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และประเทศกลุ่มยุโรป ก็มีการออกกฎหมายมาควบคุมการใช้ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์กัญชา โดยที่อุตสาหกรรมกัญชาคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่านับหมื่น นับแสนล้านบาท

ที่ปรึกษารองนายกฯ กล่าวด้วยว่า การประกาศให้กัญชาทุกส่วน หรือ บางส่วน หรือเฉพาะสารสกัด เป็นยาเสพติด ต้องมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ จึงจะตอบประชาชนได้ว่า เหตุใดจึงมีการประกาศเปลี่ยนแปลงสถานะของกัญชา ให้กลับไปเป็นยาเสพติด เนื่องจากการประกาศให้กัญชาทุกส่วนที่ผลิตในประเทศพ้นจากการเป็นยาเสพติด และกำหนดให้สารสกัดที่มี THC มากกว่าร้อยละ 0.2 ของน้ำหนักเป็นยาเสพติด เป็นการประกาศโดยมีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มารองรับ และเป็นมติของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ดังนั้นจึงต้องมีเหตุผลมารองรับหากจะมีมติเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับปัจจุบัน

“ต้องรอดูว่าการประกาศให้กัญชาเป็นยาเสพติด จะมีผลกระทบต่อผู้ประกอบการ และประชาชนที่ใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ หรือไม่อย่างไร หากมีการประกาศให้กัญชากลับไปเป็นเป็นยาเสพติดจะเหมาะหรือไม่ ที่รัฐบาลจะใช้ยาเสพติด มาสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ การแก้กฎหมายต้องคำนึงถึงคนทั้งประเทศ การแก้ปัญหา คือ การออกกฎหมายมาควบคุม ไม่ใช่ การทำให้กัญชาเป็นยาเสพติด การปลดล็อกกัญชาที่ผ่านมา มีการออกประกาศควบคุมต่างๆ เช่น ปริมาณ THC ไม่ให้เกิน 0.2 % การห้ามจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชน ตลอดจนบริเวณใกล้เขตวัด เขตโรงเรียน สตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร และการร่าง พ.ร.บ.ควบคุมการใช้กัญชากัญชง พรรคภูมิใจไทย ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ขณะนี้ได้ยื่นร่างเข้าสู่สภาฯแล้ว จึงเป็นแนวทางที่น่าจะดำเนินการต่อไปให้สิ้นกระบวนการ” นายศุภชัย กล่าว