เมื่อวันที่ 4 พ.ย.66 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก สามารถ เจนชัยจิตรวนิช ระบุว่า…
สามารถ” ฟันธง ! การเมืองเปลี่ยนแน่หลัง 15 พย.นี้เป็นต้นไป
ชัวร์…ก้าวไกลยุบ พรรคแตก เปลี่ยนขั้วรัฐบาล !!!
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงสถานการณ์การเมือง หลังวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ว่า การเมืองไทยหลังจากนี้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
เพราะวันที่ 15 พฤศจิกายน ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำพิพากษาตัดสินคดีการถือหุ้นไอทีวี ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล รวมทั้งการเอา มาตรา 112 มาเป็นนโยบายหาเสียงผ่านรัฐธรรมนูญ มั่นใจว่าทั้งสองประเด็น จะส่งผลให้พรรคก้าวไกลถูกสั่งยุบอย่างแน่นอน โดยเฉพาะการการแก้ไข มาตรา 112 คนไทยทั้งประเทศรับไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรสถาบันพระมหากษัตริย์ ต้องอยู่เหนือการเมืองมาโดยตลอด ตั้งแต่มีรัฐธรรมนูญกฎหมายฉบับแรก ปี 2475
นายสามารถ ยังวิเคราะห์การเมืองด้วยว่า หลังมีการยุบพรรคก้าวไกล สมาชิกเสียงแตกจะออกเป็นหลายฝ่าย เนื่องจากสถานการณ์ความขัดแย้งภายในพรรคเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยเฉพาะการประชุมพรรคครั้งล่าสุด ที่มีมติขับ ส.ส.ปราจีนบุรี แต่ไม่ได้ขับ ส.ส.กทม.ที่มีคดีความคุกคามทางเพศ ทำให้เกิดสองมาตราฐานจนเกิดความขัดแย้ง จนกระทั่งเป็นที่มาของสัญญาณจอดำ จาก ส.ส.หญิง ในพรรคหลายคน ชนวนเหตุเหล่านี้ทำให้เชื่อมั่นว่า จากนี้พรรคก้าวไกลเสียงจะแตกอย่างแน่นอน ทั้งยังมีการล่ารายชื่อให้เปิดชื่อคนอุ้ม ส.ส.กทม ด้วย
“นี่คือความขัดแย้ง ถ้ายุบพรรคก้าวไกล จะไม่เหมือนภาพการยุบพรรคอนาคตใหม่ในอดีต เพราะวันนั้น ส.ส.ส่วนมากเขาเดินตามไปพรรคก้าวไกล หมด แต่วันนี้ 151 เสียง ผมมั่นใจว่า ไม่ถึง 60% ที่จะตาม คุณชัยธวัช ตุลาธน หรือแกนนำแถว 3 ไปพรรคที่ก่อตั้งใหม่แน่” นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ ยังย้ำด้วยว่า ที่ผ่านพรรคก้าวไกลซึ่งมีเสียงมากถึง 151 เสียง กลับไม่ได้ทำหน้าของตัวเองในการตรวจสอบรัฐบาลแม้แต่น้อย ทั้งการอภิปรายทั่วไป อภิปรายไม่ไว้วางใจ และการยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น ฉนั้นเวลานี้ มองได้ว่า พรรคก้าวไกลไม่เป็นเอกภาพ ส่งผลการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหลังกลางเดือนนี้แน่
“ ผมขอจำลองเหตุการณ์ว่า ถ้า ส.ส. จะเดินออกไปพรรคอื่นแน่ ผมคิดแค่เพียง 70 คนก็พอ ถ้าเดินไปพรรคอนาคตไกล จับมือพรรคพลังประชารัฐซึ่งมี 40 เสียง รวมเป็น 110 วันนี้ภูมิใจไทย เองไม่แฮปปี้กับรัฐบาล จะเห็นได้หลายกรณีที่เกิดขึ้น มี ส.ส.ภูมิใจไทยออกมาถล่มรัฐบาล ทั้งเรื่องเงินดิจิตอล ทั้งเรื่องค้านหมอชลน่าน ถ้าพรรคภูมิใจไทยถอนออก 71 เสียง 110+71 เป็น 181 เสียง เอาประชาธิปัตย์ มา 25 เสียง รวมกับรวมไทยสร้างชาติ37 เสียง ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง รวม 253เสียง ก็เป็นรัฐบาลได้แล้ว ฉนั้น 15 พ.ย. มันจะเปลี่ยนการเมืองไทยหรือไม่ จะปรับ ครม. เปลี่ยนนายกฯ หรือไม่ ต้องจับตามอง หลัง 15 พย.ไปแล้ว การเมืองจะเปลี่ยนแน่นอน” นายสามารถ กล่าว